ภาพ: เฮียนพ กำลังปรับจูนเครื่องเสียง ให้กับชุด IDA-x305
เจ้าของกรอบแนวคิด
"การติดตั้งเครื่องเสียงที่ดี ร้อยละ 30 อยู่ที่เครื่องมือและอุปกรณ์
ส่วนอีกร้อยละ 70 ที่เหลือ อยู่ที่คุณภาพของการติดตั้ง" ขอขอบคุณ เฮียนพ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ เฮียเป็นแรงบันดาลใจให้ผม ต้องตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา
----------------------------------------
Customer Review: Head Unit "Alpine IDA-x305" + Speaker "PHASS es 6.5"ตามกระแสเรียกร้องของ Quality Team และเพื่อนๆ ทุกท่านนะครับ
กระทู้นี้เป็นเสียงหนึ่งจาก
USER (ผู้ใช้งาน) นะครับ
ทั้งนี้ ต้องขอออกตัวก่อนนะครับ ว่า
ผู้เขียนกระทู้ ... ไม่ใช่นักฟังระดับ "หูทอง" ที่จะฟันธง ตัดสินว่าผลิตภัณฑ์ใด ดีหรือไม่ดี
ผู้เขียนกระทู้ ... ไม่ได้ถูกจ้างมาให้เขียน
หากเพียงแต่ เป็นการ "บอกเล่าเก้าสิบ" ถึงประสบการณ์ด้านต่างๆ
ให้เพื่อนๆ สมาชิก ได้รับรู้กัน
จากผลิตภัณฑ์ที่ผมได้ติดตั้งมา โดย QC Caraudio เท่านั้นนะครับ
(แต่บางกรณี เช่น คุณภาพของการติดตั้ง เนื่องด้วยงานติดตั้งที่ดี อันนี้
ผมจึงมีความจำเป็นจะต้องขออนุญาต ติชมนะครับ
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจ ซึ่งจะกล่าวต่อไป ในกระทู้นี้) 
เอาล่ะ เิ่ริ่มกันเลยครับ นำเรื่องกันก่อนสักเล็กน้อย
ช่วงแรกเป็นช่วงที่ผมค้นหาข้อมูล
ตรงนี้ ผมจึงศึกษาถึงระบบเสียงต่างๆ ตั้งโจทย์ให้ตัวเองว่า
ต้องการที่จะติดตั้งชุดเครื่องเสียงติดรถยนต์ สักชุดหนึ่ง ให้คุ้มค่า และราคา
เนื่องจากผมมีเครื่องเล่น IPOD NANO 3rd Generation ขนาด 4Gb อยู่แล้ว
ไม่อยากปล่อยมันไว้ให้อยู่เปล่าๆ ปลี้ๆ
จึงมีความคิดอยู่ในใจว่า IPOD จะตอบโจทย์เราในด้านคุณภาพเสียงได้ไหม
ผมจึงออกศึกษา ตามสำนักต่างๆ (ทาง internet นี่หละ)
ยิ่งค้นคว้า ยิ่งทำให้รู้ว่า ไฟล์เพลงในโลกเรานี้ มีมากมายเหลือเกิน
ทั้ง .3g2 (ACC), .aif (Mcintosh), .ape (Monkey's audio),
.flac (free lossless audio codec), .mp3 (mpeg layer-3), .m4a (AAC และ apple lossless)
.ogg (ogg vorbis), .wav (standard), .wma (windows media audio)
และยังมีอีกหลากหลายชนิดที่ไม่ได้กล่าวถึง
แต่ IPOD สามารถอ่านไฟล์เหล่านี้ได้เท่านั้น นั่นคือ
.mp3
.aac
.wav
.aif
.m4a (apple lossless)
ความสุดพลังของ IPOD คือคุณภาพเสียงที่ได้จากนามสกุล .aif หรือ .wav
เรียกได้ว่า เกือบจะเทียบได้กับการเปิดฟังจาก compack disc จริงๆ
ฟังเอาความสบาย สุนทรีย์ ผ่อนคลายได้
แต่คงไปเปรียบกับ แผ่นที่อัดมาสูงไปกว่าคุณภาพ CD ปกติไม่ได้
เพราะเทคโนโลยีขณะนี้นั้น Ipod ยังไม่สามารถเล่นไฟล์เพลงสูงกว่า 16 bit ได้ครับ
เรียกได้ว่าข้อมูลตอนนี้ เกือบจะตอบโจทย์ผมได้แล้ว ในตอนนี้ ปัญหาอีกอย่างก็คือ
จะมี Head Unit ใดบ้างที่ดึงศักยภาพที่ผมอุตสาหะ ศึกษากับเจ้าไฟล์นามสกุลต่างๆ มานานสองนาน
จึงเข้าคลุกวงใน หาข้อมูลในวงการนี้อยู่พักใหญ่ พบว่ามี head unit
อยู่จำพวกหนึ่งที่ทำไว้เฉพาะสำหรับ IPOD เท่านั้น ซึ่งจริงๆ
แล้วก็สามารถเล่นกับ flash drive ได้อยู่เหมือนกัน
แต่จะถอดรหัสจาก flashdrive ได้เพียง .mp3
เฮดประเภทนี้ เป็นตระกูล alpine อนุกรม ida-x001 นับเป็นจุดเริ่มต้นของเฮดยูนิตสำหรับ IPOD จริงๆ
แต่เนื่องจากเป็นเฮดรุ่นแรก จึงทำให้มีราคาสูง
ประกอบกับเทคโนโลยีในช่วงนั้นไม่สามารถทำให้ ida-x001
เชื่อมต่อกับ PXA-H100 ซึ่งเป็นชุดจูนอัพเกรดระบบเสียง imprint อันลือลั่น ได้
หลังจากนั้น มีเฮดรุ่นหลังๆ มาลบข้อด้อยต่างๆ เหล่านี้ โดยผมจะพูดเฉพาะรุ่น top ของ alpine สำหรับ ipod นะครับ
นั่นคือ IDA-x100 ได้สักพัก แล้วก็พัฒนามาเป็น IDA-x305 ที่สามารถเชื่อมต่อกับ iphone รุ่นล่าสุดได้
คำถามก็คือ ทำไมผมจึงเลือกเฮดรุ่นนี้? .....
เพราะว่ามันมีจุดเด่นที่รุ่นอื่นๆ ไม่มีและได้ลบข้อด้อยหลายๆ อย่าง ออกไป นั่นคือ
"ความเป็น Full Speed คือ ความเร็วที่มากกว่า
เป็นจอสี!!! สวยเหมือนจอโทรศัพท์ความละเอียดสูงๆ
สามารถแสดงภาพหน้าปกอัลบัม (cover art) ได้ คนที่เล่น IPOD จะทราบตรงนี้ดี
มี interface ที่สวยงาม ให้เสียงที่ดีกว่าด้วยวิธีการนำข้อมูลดิจิตอลจากใน iPod
ออกมาประมวลผลที่ตัวเครื่องด้วย
DAC burrbrown 24Bit แล้วสามารถให้ค่า signal ratio ที่ S/N 105dB
(ทำให้คุณภาพเสียงไม่ดรอปลงจาก CD แต่อย่างใด)
ซึ่งรุ่นทั่วๆ ไปปกติ ของ alpine
เช่น cda-9884, cda-9886 หรือแม้กระทั่ง cda-9887 เมื่อเชื่อมต่อกับ IPOD
จะให้สัญญาณ signal ratio ได้แค่ S/N 98dB เท่านั้น
อีกประการคือ IDA-x305 ตัวนี้สามารถชาร์จไฟกับ iPod ได้ด้วย" เรียกได้ว่า ผมเสียบ IPOD กับเฮดชุุดนี้ติดรถไว้แบบลืมไปได้เลย
ข้อเสียซึ่งผมถือว่าไม่ใช่ข้อเสียสำหรับผม คือ
เฮดรุ่นนี้ ไม่มีช่ิงใส่ CD ดังนั้นจึง ไม่มีระบบกลไก ฟันเฟือง สายพานในเครื่อง ดังนั้น
ผมจึงไม่ต้องกังวลเรื่องฟันเฟือง รับ-ส่ง แผ่น cd ว่ามันจะเสียเมื่อไหร่
ช่วงที่สองเอาล่ะครับ หลังจากได้ระบบในใจแล้ว
จึงตัดสินใจเดินเข้าร้าน QC Caraudio เข้าพบเฮียเพื่อขอทราบแนวทางการติดตั้ง
โดย ที่สุดของระบบในใจผม อยากจบที่ tri-amp เท่านั้น ขอมีความสุขกับงบเท่านี้
และขับเวทีแบบ front stage (ใช้เฉพาะ ลำโพงคู่หน้า)
เฮียจึงบรรยายลักษณะการติดตั้ง พร้อมทั้งแนะนำชุด เฮด และ ลำโพง
นั่นคือที่มาของชุดนี้นะครับ
มาเข้าสู่การติดตั้งกันเลย
ที่จริงแล้ว ผมต้องขอชื่นชมเฮียนพ ที่มีความเป็นมืออาชีพสูง
วันที่จะติดตั้งนั้น (ที่สาขาบ้านโป่ง)
ห่างจากวันที่เริ่มสั่งของ 1 วันเท่านั้นเอง แต่เฮียก็สามารถจัดเตรียม
อุปกรณ์ทุกอย่าง มาครบถ้วนกระบวนความเลย
ภาพ: อุปกรณ์ เครื่องมือ หลักๆ ที่ใช้ในการติดตั้ง
รูปแรกเป็นกล่้องใส่ Head Unit ยี่ห้อ
Alpine IDA-x305 ส่วนใต้กล่อง Alpine
เป็นกล่องใส่ Speaker ยี่ห้อ
PHASS รุ่น es 6.5 ดูเรียบจริงๆ ครับ ทั้งกล่องทั้งลำโพง
รูปที่สองคือแผ่นแดมป์ประตู
DLS 2 บาน ใช้ติดตั้งที่ประตูด้านหน้า 2 บาน
ว่าแล้วก็เอารถเข้าเทียบท่าเลย
ต่อไปขออธิบายเป็นรูปภาพ ประกอบก็แล้วกันนะครับ
ผมได้เกาะติดการติดตั้งทุกขั้นตอน จึงถ่ายมาค่อนข้างเยอะ ขอโชว์หน่อยนะ
ภาพ: สภาพรถก่อนติดตั้ง
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ ช่างเข้ามาตรวจสภาพรถก่อน พูดกันตรงๆ ก็คือ ช่างจะเข้ามาเช็คดูก่อน
ว่ามีส่วนใดของรถที่เสียหายมาก่อนหรือไม่ เพื่อจะได้แจ้งกับลูกค้าก่อนติดตั้ง และบันทึกไว้เป็นข้อมูล
หลังจากนั้นก็เริ่มถอดทีละชิ้นแล้วครับ
ภาพ: ช่างกำลังถอดประตูเพื่อแดมป์ และติดตั้งเจ้า PHASS ตัวใหม่แกะกล่อง ลงไป
ภาพ: ช่างกำลังถอดเฮดยูนิตเดิมออก
ภาพ: ภาพรถหลังจากถอดส่วนต่างๆ ออก ด้านหลัง เห็นสติกเกอร์คลับผมแว้บๆ
มาจาก typezclub นะครับ ปัจจุบันต่อยอดไปเป็น
www.citysrzclub.com แล้ว
ภาพ: อันนี้เป็นแผ่นแดมป์ครับ DLS
ภาพ: ประตูเดิมๆ จากโรงงาน กำลังจะเงียบลงด้วย DLS Dampling
หายสงสัยเลยว่า ทำไมรถเดิมๆ มีแต่เสียงลมกับเสียงยางเข้ารถ ก็เพราะวัสดุกั้นระหว่างประตู
มันเป็นแผ่นพลาสติกบางๆ นี่เอง เห็นลำโพงเก่าของผมไหมครับ ผุพังตามกาลเวลา
แถมกรวยกระดาษ ยังขาดอีก โอ้ว... อะไรจะขนาดนั้น
ถึงว่า ทำไมเดิมๆ จึงได้เสียงที่แปลก พิสดารไม่เหมือนใคร
ภาพ: หลังจากแกะพลาสติกออกก็เป็นเช่นนี้ล่ะครับ
มาดูความใส่ใจคุณภาพจากทางร้านกันครับ นั่นคือ สเปเซอร์กันน้ำเข้้าลำโพง
ของทาง QC caraudio จากมาตรฐานที่ทาง QC caraaudio เน้นย้ำนักหนา
ช่างทุกคนรู้งาน ทำงานใจเย็นแต่รวดเร็ว จนผมมั่นใจถึงคุณภาพ ที่ไม่ตกหล่นแน่นอน
ภาพ: สเปเซอร์กันน้ำเข้้าลำโพง
ภาพ: แกะกล่องแล้วครับ alpine IDA-x305
ภาพ: ถอดเปรียบเทียบลำโพงเดิมๆ (ซ้าย) กับ PHASS (พาส) รุ่น es 6.5 (ขวา)
ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว เจ้า Phass นี้ เรียบง่าย แต่หากดูจาก spec ของอุปกรณ์ที่ใช้นั้น สุดยอดมากครับ
ขออนุญาตตามลิงค์ไปที่นี่นะครับ จะได้เห็นอะไรชัดเจนมากขึ้น
(เครดิตให้กับคุณ ชัยวัฒน์ พิสิษฐบรรณกร แห่ง นิตยสารในเครือ whatgroupthai ด้วยครับ)
http://www.whatgroupthai.com/whatCar/68/phass_es6-5.html
ภาพ: สายนำสัญญาณไปสู่ลำโพง ที่เฮียนพเลือกให้ เป็นสายปริซึมครับ
ภาพ: นายแบบ (ช่าง) กำลังเดินสายสัญญาณลำโพงใหม่หมดทั้งระบบ
ภาพ: จากนั้นก็มาตรวจสอบและติดตั้งสายสัญญาณหลังเฮดยูนิตใหม่
ภาพ: ช่างแดมป์อย่างละเอียด โดยค่อยๆ ใช้ blower ลมร้อน เป่าแต่ละจุดให้แผ่นแดมป์ติดประตู
เปรียบประหนึ่งว่า ช่างจะไม่อนุญาตมีเสียงใดๆ เล็ดรอดเข้ามาจาก ตำแหน่งที่ปิดแผ่นแดมป์ไปแล้วอย่างแน่นอน
ที่ตัวฐานรองลำโพงที่เห็นในรูป ได้ทำขึ้นใหม่โดยใช้ไม้ และต้องมั่นใจว่า แผ่นไม้จะต้องแนบสนิทกับประตูและลำโพง
เนื่องจากรถ honda city บอดี้นี้ ที่ประตูจะเป็นสันโค้งๆ ไม่เรียบ
แอบเ็ห็นว่าไม้ชุดแรกซึ่งเป็นแบบปกติ ที่ช่างเอามาติดตั้งนั้น ไม่แนบสนิทกับประตูและลำโพง
การแก้ปัญหาของช่าง นั่นคือ เปลี่ยนตัวใหม่ทันที เป็นชิ้นใหม่ที่ทำขึ้นพิเศษ
หากเป็นร้านที่ไม่ได้มาตรฐาน เข้าคงจะข่มขืนไม้รองลำโพงอันเดิม
ที่ติดตั้งไม่สนิทไปกับรถผมแล้ว
ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ QC Caraudio เลือกทำแน่นอน จุดนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องชมครับ
"ต้องยอมเสียเวลา เพื่อให้ได้งานที่ดีที่สุด"ระหว่างที่ติดตั้งนี้ เฮียนพก็จะคอยเดินตรวจงานอยู่ตลอดครับ บอกได้เลยว่า อุ่นใจ
และคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ได้มาติดตั้งที่นี่ครับ ของเค้าดีจริงๆ
ภาพ: หน้าตา crossover ของ PHASS เค้า หลังจากติดตั้ง คงไม่ได้เจอกันอีกนานเลย
ช่วงที่ติดตั้ง cross ตรงนี้ พบทีเด็ดบางอย่างครับ เพราะเฮียนพได้เดินเข้ามาหยิบ cross
แล้วใช้นิ้วดีดที่ฝาครอบ cross ดัง ป๊อกๆ
ผมเลยถามว่า เฮียทำไมต้องดีดด้วยครับ เฮียก็เลยบอกช่างว่า ตอนติดตั้งเสร็จ อย่าเพิ่งเก็บ cross นะ
เดี๋ยวจะมาเล่นอะไรให้ดู นั่นแน่ เทคนิคบทเรียนที่ 1 เริ่มขึ้นแล้ว
สังเกตให้ดีนะครับ เฮียจะเน้นมาก ว่าการติดตั้ง crossover จะต้องวางบนแผ่นไม้่เพื่อให้ได้เสียงที่ดี
และจะให้มิติเสียงที่ดีกว่าไม่ได้ติดแผ่นไม้
ภาพ: สายนำสัญญาณไฟฟ้า จากแบตเตอรี่ที่เลือกใช้ครับ
ภาพ: ช่างกำลังติดตั้งสายแบตพร้อมกระบอกฟิวส์ ท่านนี้อายุยังน้อยแต่เป็นช่างที่มีเชิง คนนี้ขวัญใจผมเลย
ตอบคำถามได้ฉะฉานมาก ตอบคำถามเป็นมิตรกับลูกค้า ถามตรง ตอบจริงได้สาระด้วย
ภาพ: เริ่มติดตั้งแผงประตูกลับแล้วครับ จากนั้นงานก็เสร็จเรียบร้อย
ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ไวจริงๆ ครับ
QC CAR AUDIO - Quality of Sound สมชื่อจริงๆมาถึงช่วงจูนอัพ หลังจากเสียบ ipod ผ่านสาย fullspeed
เฮียก็เปิดประเด็นก่อนเลย โดยให้ผมนั่งฟังดนตรี แล้วจำบุคลิคเสียงก่อน
เสียงกรุ๊งกริ๊งทีเดียวครับ แต่ไม่ใช่ย่านแบบที่เป็นเสียงแหลมบาดหูแนว แบนพาส
แต่เป็นย่านเสียงแหลมที่เชื่อได้ว่า มาจากเครื่องดนตรีจริงๆ ไร้การปรุงแต่งใดๆ
PHASS ทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว สำหรับผม ให้ PHASS สอบผ่าน
ลองเพลงอยู่หลายแนว มากๆ
ไฟล์ทั้งหมดที่ใช้ทดสอบ เป็นนามสกุล .m4a (apple lossless)
ที่ Rip มาจาก .flac ที่หาได้จาก เวปไซต์ torrent อีกที
พอพิจารณาดูให้ลึกแล้วนั้น พบว่าเสียงโดยรวมนั้น ย่าน mid-bass ออกมาให้สัมผัสได้จริงดีทีเดียว
แต่ยังไม่ชัดเจนนัก เฮียจึงให้ช่างไปตัดแผ่นแดมป์เล็กๆ มาแปะที่ฝาครอบ crossover นี่หละ
(จาก บทเรียน 1 ที่ว่ามาข้างต้น)
หลังจากลองฟังดูอีกที ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นึกว่าเฮียนพเล่นของ
ไม่รู้ว่า mid-bass มาจากไหนอีกก็ไม่รู้ คราวนี้ออกเต็มๆ มากขึ้นเลย รู้สึกได้โดยที่ไม่ได้คิดไปเอง
ambient บรรยากาศรอบๆ ตัวโน้ต ขณะที่ Dave กำลังคุยกับ Hihat ชัดเจนกว่าเดิมมาก
ให้ความรู้สึกได้อีกว่า มีบรรยากาศเสียงปรบมือ ของผู้ชมที่ชื่นชม Dave นั่งอยู่ข้างหลังเรา เกือบจะชัดเจน
แม้ว่าในระบบจะเป็นเพียง ลำโพงคู่หน้าก็ตาม
(Wake Up - Dave Weckl อัลบั้มแสดงสด)ปรับตั้ง ระดับของ tweeter ให้เหมาะสม ให้เวทีเสียงไม่ลึกเกินไป แต่ก็ไม่แบนเสียจนไม่เห็นตำแหน่งเครื่องดนตรี
โดยขณะปรับ ทดลองใส่ใจด้านมิติความกว้างของเวทีเสียง
พบว่า เครื่องเสียงเซ็ตนี้ให้ความกว้างของเวทีได้ชัดเจน ในช่วงที่ percussion ค่อยๆ
ออก crescendo ดังขึ้นจนถึงอารมณ์สูงสุด cymbals ก็ทำหน้าที่ของมัน ทันทีที่เสียงเปล่งออกมา
ก็แผ่รัศมีเสียงออกในแนวกว้างทันที
ความรู้สึกเมื่อหลับตาฟัง ให้อารมณ์เสียงล่องลอย เลยออกไปจากกระจกด้านข้างรถอีกพอสมควร
(Life In Technicolor - Coldplay - Viva La Vida)เสียงเครื่องดนตรีก็ให้รายละเอียดได้ดี
ให้ความสงัดของบรรยากาศ เสียงครางของเปียโนตัวใหญ่
ทำให้รู้ว่า เปียโนมีอารมณ์คล้อยตามไปกับอารมณ์ของผู้เล่นอยู่ตลอดเวลา
(Sarah McLachlan - Angel)นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายแนวเพลงนะครับ ที่ใช้ทดสอบ
ไม่ว่าจะเป็น
Test Files - Sheffield Lab - Percussion Recording
Dream Theater - Instrumedley - Live At Budokan
Acoustic Alchemy - Playing for Times - The Best of
Santana - Smooth (feat. Rob Thomas)
Linkin Park - Given Up - Minutes to Midnight
Mariah Carey
Whitney Houston
Mild (อัลบั้มเพลงไทยอัลบั้มเดียวที่ทดสอบ)
ยังขาดแนว ลูกทุ่ง ตั๊กแตน ชลดา ที่ไม่ได้นำมาทดสอบ เสียดาย ไม่ได้ Rip มา
สภาพแนวเสียงโดยรวม ถึงแม้ว่าจะยังไม่ตูมตามนัก แต่บอกได้ว่า รายละเอียดเสียงออกมาครบสะใจผมครับ
ภาพ: หลังจากพอใจกับเสียงที่ทดสอบ เฮียนพ จึงให้ช่างมา fix ตำแหน่งของตัว tweeter เป็นอันเสร็จสิ้น
ภาพ: งานสุดท้ายคือสติกเกอร์ครับ ขาดไม่ได้เลย แหะๆ
ต้องขอบคุณ QC CAraudio จริงๆ ครับ ที่อนุญาตให้ผม สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ
ที่ไม่เคยคิดว่า ระบบเสียงติดรถยนต์ จะสามารถให้ได้ขนาดนี้ และอาจจะมากกว่านี้เสียด้วยซ้ำ
ผมเชื่ออย่างนั้น...
