EQ คืออะไร
เริ่มแรก สำหรับสิ่งที่เราเห็น จริงๆ แล้วผมคิดว่าผู้อ่านคงรู้อยู่แล้วว่า EQนั้น มีไว้ทำอะไร แต่เราจะค่อย ๆเขยิบไป ทีละนิดบอกเล่านั่นนิดนี่หน่อย แล้วค่อยๆ เฉลยว่า เรากำลังบอกอะไรบ้าง จาก บทควาทเริ่มแรก ก็พูดถึงเรื่อง EQ ไปไม่มากก็น้อย แต่ เรายังคิดว่าผู้อ่านก็ยังยากรู้เรื่องราวของEQ ,มากขึ้นไปอีก เพราะเรื่องของEQ นั้นมันต่อเนื่องกันยาวไกลพอสมควร
แสดงให้เห็นถึง parameters ของการตอบสนองความถี่ จากอุปกรณ์ ที่เราป้อนสัญญาณ ซึ่งเรามักจะคาดหวังว่าเสียงที่ออกจากชุดเครื่องเสียงของเรานั้น มันสามารถที่จะตอบสนองความถี่ออกมาได้ราบเรียบ ( FLAT) แต่มันก็เป็นได้แค่ใกล้เคียงเท่านั้น เนื่องเพราะว่าในขณะที่เราทำการ Mixing นั้น เราจะตั้งรูปแบบ การตอบสนองของ mixing console พร้อม EQ controls ที่จะเซ็ทอัพไว้อยู่ที่ ตำแหน่งกึ่งกลาง หรือไม่มีการปรับค่าความถี่ใด ๆ หรือเราจะทำการตั้งค่าของ ปุ่ม EQ ไปที่ตำแหน่ง off เพื่อที่เราจะทำการตั้งค่า ความ balance ของ frequencies ให้เป็น original มากที่สุด เพราะว่าเสียงที่เจะได้ยินต่อไปนี้จะเป็นเสียงที่เราเรียกว่า เป็นเสียงที่ผิดปรกติ จากเสียงดั้งเดิม(original) ของเสียงเครื่องดนตรี เช่น เสียงแบบ trebly, tinny, harsh, nasal, honky, bassy or boomy ซึ่งเสียงที่กล่าวมานี้มักจะไม่เป็นที่ต้องการทั้งสิ้น อย่างเช่นโดยธรรมชาติแล้ว เสียง cymbal นั้น ค่อนข้างจะมีเสียงความถี่สูงที่แข็งกระด้าง และมีปลายเสียงที่เล็กแหลม
แสดงถึง flat response ในช่วงของการ 20Hz and 20kHz, สำหรับ Figure 2 และ Figure 3 แสดงถึง รูปแบบของแถบความถี่ สำหรับการปรับแต่งจาก EQ ของ mixing console เราะแสดงให้เห็นถึง การ แสดงรูปแบบ curve ซึ่งเป็นการผิดเพี้ยนของ EQ ขณะที่ recording และ sound engineers อาจจะประสพ เจอ ประมาณ 0.0001% ในขณะทำการบันทึกเสียง เพราะอุปกรณ์ที่ใช้บันทึกนั้นมีความเสถียรหรือมีความถูกต้อง มากที่สุดอยู่แล้ว และสำหรับเสียงร้องนั้น
producer หรือ sound-engineer มักจะให้เสียงร้องมี ลักษณะเสียง แบบ presence หรือพูดง่ายๆก็คือ มีปลายเสียงแหลม นิด ๆในการออกเสียง หรือเราจะเห็นเป็นรูปกราฟ แบบระฆังคว่ำ (bell-shaped) จาก รูปที่ .2
เราทำการ ปรับ EQ ขึ้นมาระดับหนึ่ง (boost)และจะเห็นว่า มีค่า parameters อยู่3 ส่วน ที่เราต้องการ ปรับแต่ง EQ อันดับแรกก็คือเรา ต้องทำการปรับ ค่า หลักของความถี่ก่อน (centre) เพื่อแยกแยะความชัดเจน ของ เครื่องดนตรี ก่อน เพื่อให้เครื่องดนตรีนั้นโดเด่นขึ้นมา ขั้นที่2คือ ทำการปรับค่าระดับสัญญาณ( gain) , โดยมีค่ากาวัดเป็น decibels (dB) ที่จุด ความถี่กลาง (centre frequency) mixing consoles นั้นจะทำการ calibrate เป็นค่า dB, และสามารถปรับค่าขึ้นลงได้ ตั้งแต่ 12 ถึง 15dB. ซึ่ง Gain นั้นอาจถูกลดลงได้จากการที่เรา ทำการ ปรับลด EQ (cut) โดยมากจะลดลงประมาณ -6 dB จาก ค่าความถี่กลาง และเมื่อเราดูที่ เส้น curve จะเห็นว่า มัน ลดค่าลงที่จุด ๆหนึ่ง (dip).
parameter ของ ค่า Q นั้นเราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบ คือในรูปแบบ bell-shaped curve ซึ่งจะให้ค่า bandwidth as ที่ต่ำ โดยมีค่า Q= 0.3 ส่วนค่า ที่สูงกว่าก็คือ Q = 5 ซึ่งจะมีผลต่อเสียงโดยรวมทั้งหมด
bell-shaped curve จะเป็นจุดสูงสุด (peaking) ของ EQ ในรูปที่ 3 แสดงแบบ 'shelving' EQ, คือจะทำการเลือกเพิ่มหรือลดเฉพาะบางค่าความถี่ ทีนี้ราก็เห็นคร่าว ๆแล้วว่า EQนั้นสามารถมีผลต่อค่าความถี่ได้แบบใดบ้าง คราวหน้าเราจะมาดูราบละเอียดกันว่า เวลาที่เราปรับไปแล้ว จะได้ผลเป็นอย่างไร อย่างพลาด นะครับ