ผู้เขียน หัวข้อ: บทความดีๆ จาก CAR AUDIO MAG  (อ่าน 21658 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

qualityteam

  • Administrator
  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 4,557
    • อีเมล์
Re: บทความดีๆ จาก CAR AUDIO MAG
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: 07/06/11 01:20:11 »
.ระบบ Car AV ตอนที่1  เขียนโดย พงษ์เผ่า ทองธิว    .

 

เราจะเลือกระบบ car video system อย่างไร

ช่วงนี้เป็นช่วงของ การที่เราสามารถนำความบันเทิงที่เรามีอยู่ในบ้านนั้น จับมาใส่ในรถยนต์กันได้อย่าง ง่าย ๆเพราะอุปกรณ์ ต่าง ๆรวมทั้งส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับความบันเทิงในบ้านนั้นคือ HEAD-UNITซึ่งในปัจจุบันนอกจากสามารถเล่นแผ่นCDเพลงได้แล้ว ยังสามารถที่จะเล่นแผ่น MP3ได้


ซึ่งเมื่อ เวลาผ่านไป ส่วนที่เป็นความบันเทิงในด้านภาพ นั่นคื่อ VCD ได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากเพราะ สามารถที่จะเล่นแผ่นVCD ได้อย่างสบายรวมทั้งระบบเสียง “dolby pro-logic”ซึ่งเป็นระบบเสียงแบบรอบ ทิศทางแบบ analogในยุคแรกๆที่สามารถสร้างเสียงรอบทิศทาง ในแบบ L,C,R,S หรือ คนที่ทำงานในด้าน การเข้ารหัสเสียงสำหรับโรงภาพยนต์ (dolbyencode)ที่ใช้ในระบบ theaterจะเรียกว่า”LT-RT”จนกระทั่งเกิด แผ่นความจุสูง ขึ้นมาในรูปแบบ ของ DVD ซึ่งสามารถบรรจุภาพยนต์เข้ามาไว้ได้ภายในแผ่นเดียวรวมทั้งsubtitleที่สามารถใส่ภาษาได้มากมายกว่า 10ภาษา รวมทั้งระบบเสียงแบบรอบทิศทางแบบ dolby digital ซึ่งมีรูปแบบของการจัดรูปแบบเสียงในแบบ L,C,R,LS,RSและLFE  ในโรงภาพยนต์ มาสู่ แผ่นDVDที่เรียกว่า AC-3 เข้ามา รวมทั้งระบบ DTSและTHX ซึ่งเป็นระบบเสียงรอบทิศทางเช่นกัน


จากจินตภาพที่เราสามารถรับรู้และเพลิกเพลินได้ จากการเดินทางพร้อมความหรรษาในวันหยุดกับรถยนต์แบบ  minivansหรือแบบอื่น  ที่สามารถพาครอบครับไปท่องเที่ยวได้อย่างสบาย ซึ่งเวลาส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ในรถยนต์ที่ใช้เดินทางเกินกว่า 40%  ของเวลาการเดินทาง ท่องเที่ยง 1ครั้ง ซึ่งส่วนมากคนในครอบครั้วรวมทั้งเด็ก ๆมักจะนั่งรวงมกันอยู่ทางด้านหลัง เสียงเป็นส่วนใหญ่สำหรับรถที่มีความกว้างขวางมากพอ และจากอดีตที่เรามีความสุขกับการนั่งฟังเพลงจากวิทยุและเครื่องเสียงชั้นเลิศไปพร้อมกับการเดินทาง  แต่ปัจจุบันมันได้เปลี่ยนไปแล้ว นั่นคือรูปแบบที่มีความสามารถในการนำเสนอที่มากกว่าเสียงดนตรีที่สามารถรับรู้ได้ นั่นคือ  mobile video ซึ่งจะอยู่เคียงข้างคุณไปตลอดการเดินทาง  

Mobile video นั้นจัดเป็นแหล่งรวมความสุนทรีย์ ที่ให้ความต่อเนื่องเป็นเวลานาน และสามารถเปลี่ยนรูปแบบความบันเทิงได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Music VDOหรือ KARAOKE ซึ่งเราสามารถร้องเพลงร่วมกันได้อย่างสนุกสนาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราเรียก รวมๆว่าระบบ  in-car entertainment.  ไม่ว่าจะเป็นรถ SUV รุ่นใหม่หรือรถ minivan ก็จะมีfeature ในแบบของ mobile video components รวมเข้ามากับรถยนต์ที่ออกมาจำหน่ายด้วย ซึ่งเป็น options ที่เราสามารถเลือกได้ และโดยมากคนส่วนใหญ่ก็เริ่ม ที่จะเข้าใจและชื่นชอบระบบ in-car entertainment  โดยเฉพาะ รูปแบบ video entertainment systems.

ทำไมต้อง เป็น mobile video ?
ในรูปแบบของ mobile video นั้นจะประกอบไปด้วยสิ่งละอันพันละน้อยให้เราสามารถหยิบมาใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่

Entertainment. นั่งหมายถึงว่า ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวที่ไหนที่เราต้องการ(trip),เราสามารถที่จะหา แหล่ง software ขอความบันเทิงเช่น แผ่นVCD ภาพยนต์ ซึ่งเราสามารถที่จะหาได้จาก  supermarket ตามปั้มน้ำมัน ที่เราสามารถแวะ หาได้ ยามเดินทางท่องเที่ยว ต่างจังหวักหรือเดินทางไกลในที่ ๆ ปราสจากสัญญาณโทรทัศน์ เพราะโดยมาก เด็ก ๆมักจะชอบดู การ์ตูนมากกว่า ดูรายการโทรทัศน์  จาก จอภาพที่ฝังอยู่หลังเบาะนั่งด้านหน้า (Backseat video systems)หรือในบางกรณีก็สามารถที่จะเล่น games ได้ด้วยหากติดตั้งเครื่องเล่นgameอย่าง playstation ลงไป

Safety
ถ้าพูดถึงคามปลอดภัยยามเดินทาง ระบบ video systems บางรุ่น สามารถเพิ่มเติม option สำหรับเป็นผู้ช่วยเหลือในการดูแลเส้นทางและแนะนำเส้นทางในการเดินทางที่สามารถแสดงจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดที่เราต้องการจะไปได้โดยนำภาพ เข้าเชื่ออมต่อกับหน้าจอเพื่อแสดงแผนที่ และรายละเอียดต่าง ๆ ซึ่งเราเรียกว่า ระบบ  navigation system ซึ่งสามารถบอกพิกัดตำแหน่งที่เราอยู่นะจุดนั้น ๆและยังสามารบอกถึงการเลี้ยวซ้ายขาวในจุดที่ต้องเลี้ยวไปตามเส้นทางในแผนที่ (turn-by-turn visual and voice directions) ซึ่งมีผลในการช่วยเหลือสำหรับการเดินทางเป็นอย่างมากเพราะลดยะยะเวลาในการเปิดแผนที่และการดูป้ายตามทางเพื่อ หาที่ ๆราต้องการจะไปและ ไม่เกิดเหตุการหลงทางได้ง่าย ๆนับเป็นความตัวช่วยเหลือที่ดีมากอย่างเห็นได้ชัด    คอยติดตตามตอนต่อไปครั้งหน้ากันน่ะครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07/06/11 01:20:57 โดย qualityteam »
Quality  คือ สิ่งที่ไม่ได้เกิดจากดวามบังเอิญ แต่เกิดขึ้นได้จากความพยายาม

MR.Prakarn Lengprasert

  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 2,103
    • อีเมล์
Re: บทความดีๆ จาก CAR AUDIO MAG
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: 07/06/11 10:53:48 »
จะคอยอ่านเรื่อยๆครับเอียนพจะได้มีความรู้เพิ่มขึ้นจากที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร ขอบคุณครับ

qualityteam

  • Administrator
  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 4,557
    • อีเมล์
Re: บทความดีๆ จาก CAR AUDIO MAG
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: 07/08/11 00:49:11 »
  .
ระบบ CAR AV ตอนที่2
         ครั้งที่แล้วเราได้พูดถึง รูปแบบความบันเทิงที่สามารถให้ความรู้สึกถึงการดูหนังฟังเพลงในแบบ 5.1 สำหรับ Car theatre ไปแล้วและสิ่งที่เราได้กลับมานั้นก็คือสิ่งที่ได้ในการดูภาพยนตร์ในรถยนต์นั่นคือความเพลิดเพลินนั่นองครับ

 ส่วนที่ดีที่สุดสำหรับการนั่งดูหนังฟังเพลงสำหรับผู้โดยสาร นั่นก็คือ การนั่งมอง monitor ที่ติดตั้งอยู่ หลังพนักพิงเบาะ ที่นั่งหน้ารถ( backseat )เพราะเมื่อคุณนั่งอยู่ในตำแหน่งที่นั่งด้านหลังแล้วมันยังอยู่ในท่าที่สบายที่สุดและสามารถมองเห็นได้ถนัดที่สุดอีกทั้งยังสามารถที่จะควบคุม การเล่น DVD  in-dash receiver ในขณะรถหยุดนิ่งหรือออกเดิน ทางได้ด้วยตัว remote control ที่สามารถคบคุมได้หลากหลาย function หรือควบคุมผ่านการสัมผัสปุ่มควบคุม (touch-screen)จากหน้าจอ  และถ้าคุณมีระบบที่สามารถรองรับ รูปแบบในการดูภาพยนตร์ ในแบบ 5.1 home-theater-style sound ด้วยแล้วมันจะเป็นการเพิ่มอรรถรส ในการดูหนังฟังเพลงให้เพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ทิศทางยังยาวไกล

          Mobile video systems นั้นนับเป็น นวัตกรรมที่มาแรงแซงทางโค้ง และจัดเป็น number one ของรูปแบบการ entertainment ที่เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อเสริมสร้างความเพลิดเพลินให้กับการเดินทางทั้งในเมืองและนิอกเมือง โดยที่คุณสามารถเล่นสื่อบันเทิงอาทิ  Movies, video games, การรับชมโทรทัศน์,หรือระบบnavigator ซึ่งสามารใส่ความบันเทิงเหล่านี้ได้กับรถยนต์ทุกประเภทไม่จำกัดไว้แต่กับรถminivanหรือ รถSUV สุดหรูก็ตาม และ mobile video นั้นจัดเป็น technology ที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุด และน่าสนใจมากที่สุด ในเวลานี้

เราต้องการอะไร
       ถ้าเราจะพูดถึงเฉพาะแต่ระบบ mobile video components ในบทความนี้ก็คงพูดได้ไม่หมดเพราะมันครอบคลุมรูปแบบ ต่างๆไว้มากมาย เพราะฉะนั้นเราจะมาพูดถึง พื้นฐานของระบบ mobile video setup ที่เราต้องการและสามรถหามาใช้งานได้แบบไม่ยาก กันดีกว่า  

       1. video monitor สำหรบการแสดงภาพ  

       2. media playerเช่นเครื่องเล่น DVD,VCD

       3. ระบบ audio component  stereo, surround sound 5.1,6.1,7.1 system

           ในบางระบบ มันต้องการรูปแบบของมันเองเพียงแบบเดียว นั่นก็คือ สามารถที่จะใช้งานได้อย่างเต็มที่ทุก function ที่มี ได้ก็  ต่อเมื่อใช้ อุปกรณ์ต่าง ๆที่เป็นของ ยี่ห้อเดียวกันหรืออยู่ ใน series เดียวกัน เท่านั้น  ในการติดตั้งใช้งานและแสดงผลในระบบของคุณ เช่น head-unit ที่สามารถควบคุมการเล่นแผ่นDVDหรือการควบคุมการเปิดปิดหน้าจอmonitorเพื่อแสดงภาพ ซึ่งคุณจำเป็นต้องวางแผนการเลือกซื้อและการใช้งานให้อยู่ในงบประมาณที่สามารถเลือกมาใช้งานได้
ตัว mobile video บางรุ่นสามารถ แยกจากกันได้โดยอาจถอดจอภาพออกไปติดตั้งไว้ที่ front-seat หรือ backseat โดยที่ส่วนควบคุมหลักยังคงติดตั้งอยู่ที่แผง dash board ทางด้านหน้า ในรูปแบบ  front-seat systems นั้นเป็นจุดติดตั้งจุดแรกที่เรามอง เพราะเราสามารถที่จะติดตั้ง  in-dash receivers และ  monitors เข้าไว้ที่ตำแหน่ง  standard-sized dash ของรถยนต์ได้อย่างพอดี จาก มาตรฐานที่ถูกกำหนดขึ้นมาในแบบ 1DIN และ 2DIN ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่ผู้ผลิตนั้นออกแบบมาให้เหมือนกันทุกยี่ห้อ  ในรูปแบบ ของBackseat systems นั้นตัว  monitors เองสามารถ ที่จะติดตั้ง ในตำแหน่ง ของหมอนรองศรีษะ ของเก้าอี้ด้านหน้า หรือสามารถเปลี่ยนแปลงไปไว้ในตำแหน่งอื่น ซึ่งเราจะแนะนำและนำเสนอกันต่อไป ครับ ส่วนที่ง่ายที่สุดสำหรับการติดตั้ง ระบบ mobile video system ก็คือในส่วนของ ด้านหลังพนักพิงเบาะหน้า (front seats)ซึ่งเป็นตำแหน่งสำหรับติดตั้งในรถสำหรับการชมภาพยนตร์สำหรับคนโดยสารอย่างที่กล่าวไปแล้วในตอนต้น และรูปแบบของ in-dash receiver ที่มาพร้อมกับจอแสดงผล(built-in monitor) แบบ LCD ขนาด 61/2หรือ 7นิ้ว แบบหลายมุมมอง(TFT) ที่สามารถพับเก็บได้ด้วยระบบ motorized นอกจากนั้นตัว receiver ยังมาพร้อมกับภาคขยายในตัวแบบ high-power  และบางรุ่นนอกจากสามารถรับชมภาพยนตร์ ได้อย่างชัดเจนแล้วในส่วนของตัว TV screens ยังสามารถที่จะแสดงผลของระบบข้อมูลการใช้งานในส่วนMenuต่าง ๆ ของระบบ videos system information displays และยังสามารถที่จะทำการควบคุมfunctionต่าง ๆผ่านหน้าจอได้อีกด้วย(touch screen-system controllers) ในส่วนของ receivers นั้นถูกออกแบบมาอย่างดีโดยใช้อุปกรณ์ ในระดับ high-end ทำให้ได้เสียงที่ดี พร้อมด้วยระบบความคุมการปรับแต่งเสียงที่ดีมาก


           ในส่วนของ Mobile video receivers นั้นนับเป็นส่วนที่สามารถต่อขยายขอบเขตในการใช้งานหรือเพิ่มเติมส่วนต่าง ๆเข้ามาในระบบได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนของระบบ เสียงที่สามรถเพิ่มเติมรูปแบบได้อย่างไม่จำกัดไม่ว่าจะเป็นในส่วนของลำโพงหรือในส่วนของpower amp หรือในส่วนของระบบภาพ(video components) ที่เราสามารถจัดเก็บข้อมูลลงในแผ่น DVD เพื่อสามารถนำภาพยนตร์หรือเพลงที่บันทึกมาได้

 

           และถ้าคุณต้องการที่จะเลือกในรูปแบบของระบบนี้แล้ว คุณก็ควรที่จะเลือก เครื่องเล่น receiver ที่สามารถจะเล่นแผ่นDVD ได้ด้วย เพราะว่าตามพื้นฐานโดยทั่วไปแล้วตัวเครื่องเล่น DVD receiverนั้น โดยมากจะถูกออกแบบมาในลักกษณะ แบบ all-in-one solution ซึ่งนอกจากจะสามารถเล่นแผ่น DVD ได้แล้วยังสามารถที่จะเล่นแผ่นที่อยู่ในรูปแบบของformatอื่น ๆเช่นVCDหรือMP3ได้อีกด้วย  นอกจากนั้นเครื่องเล่น DVD บางรุ่นที่มีจอภาพในตัวยังสามารถ รับภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในรถยนต์สำหรับการมองภาพเวลาจอดรถ หรือมีรถอื่นเข้ามาใกล้เกินกว่าที่ระบบกำหนด หรือมีระบบหน่วยความจำภายในที่คุณสามารถจัดเก็บรูปถ่ายจากกล้อง digital เข้ามาไว้ในเครื่องแล้วสามารถแสดงภาพออกทางหน้าจอได้ และเพื่อเหตุผลสำหรับความปลอดภัยด้วยแล้วมันเป็นสิ่งแน่นอนที่ว่า ถ้าหากคุณไม่อยากที่จะหัวเสียหรือถูกการขัดจังหวะกับการรับชมและมีสมาธิอยู่กับภาพยนต์เรื่องโปรดขณะขับรถในขณะที่การรับชมภาพยนตร์ไปด้วยกันโดยใช้ความเร็ว ที่65Km/H มันจะเป็นการดีกว่าที่จะไม่ดูภาพยนต์ขณะขับรถ ที่ความเร็วขนาดนี้อย่างสิ่งที่น่าจะทำไว้ก่อนก็คือคงต้องทำพินัยกรรมไว้บ้างละครับ  อย่างไรก็แล้วแต่ ระบบแสดงผลผ่านหน้าจอนั้นจะเป็นจุดกลางที่สามารถจะทำการควบคุม การใช้งาน function ต่าง ๆของระบบ ได้ง่ายมากขึ้น โดยการควบคุมการใช้งานในfunctionต่าง ๆโดยการใช้งานผ่านหน้าจอ(touch-screen control)ในส่วนมาก เครื่อง DVD receivers จะมีส่วนของการใช้งานในรูปแบบ graphicsและการใช้งานการปรับแต่ง equalizer displays ที่สามารถใช้การปรับแต่งและควบคุมผ่านหน้าจอกันแทบทั้งสิ้น สำหรับการใช้งานและสำหรับการปรับแต่งเสียงดนตรีให้ไพเราะขึ้นโดยที่ไม่ต้องละสายตามาควบคุมมากนัก  ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็น ส่วนหนึ่งซึ่งเป็นองค์ประกอบที่เราต้องการสำหรับความบันเทิงในรถยนต์คราวหน้าคอยติดตามดูครับ ว่า มีส่วนใดอีกที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ กว่าจะเป็น 5.1 ในตอนหน้าซึ่งเราจะย้อนกลับไปสู่ต้นกำเนิดกันต่อครับ อย่าพลาดแม้แต่ตอนเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07/08/11 00:51:45 โดย qualityteam »
Quality  คือ สิ่งที่ไม่ได้เกิดจากดวามบังเอิญ แต่เกิดขึ้นได้จากความพยายาม

qualityteam

  • Administrator
  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 4,557
    • อีเมล์
Re: บทความดีๆ จาก CAR AUDIO MAG
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: 07/12/11 06:33:57 »
    .

EQ Technich       เขียนโดย พงษ์เผ่า ทองธิว   
 

ก่อนที่แล้วเราได้พูดถึงเรื่องของการ ใช้งานและแนะนำในเรื่องของ Frequency is the number กัน คราวนี้จะขอย้อนกลับมาดู ว่าตัว EQ นั้นเราสามารถนำมาใช้งานจริงสำหรับ Music Reproduction ได้อย่างไร ซึ่งมันก็จะเกียวเนื่องไปถึงเรื่องของ Ear training  แล้วมันจะเกียวข้องกันอย่างไร เพราะว่าเราจำเป็นต้องใช้การฟังเข้ามามีส่วนในการปรับ ค่าความถี่ต่าง ๆจาก Equlizer ที่เรานำมาใช้งาน  เพราะการปรับแต่งค่าจาก EQ นั้นเป็นการ ปรับค่าแบบ ซ้ำ ๆ ใน แต่ล่ะช่วงความถี่ ที่เราได้ยินนั่นหมายความว่าค่าความถี่ที่เราได้ทำการปรับไปนั้นจะเปลี่ยนแปลงค่าอยู่ตลอดเวลาเพราะฉะนั้นเวลาที่เราทำการปรับเราจะได้ยินเสียงค่าความถี่ที่เปลี่ยนไป ซึ่งขึ้นอยุ่กับคาบเวลาของความถี่ หรือ Cycle

Quality  คือ สิ่งที่ไม่ได้เกิดจากดวามบังเอิญ แต่เกิดขึ้นได้จากความพยายาม

qualityteam

  • Administrator
  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 4,557
    • อีเมล์
Re: บทความดีๆ จาก CAR AUDIO MAG
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: 07/12/11 06:35:13 »
Equalisation

นั้นจัดเป็น อุปกรณ์ที่มี ความสำคัญในการช่วยเราปรับเสียงค่าความถี่ต่าง ๆ ของเสียงดนตรี  เพื่อให้ได้เสียงที่ดีที่สุด  หลังจากที่เราได้ทำการบันทึกเสียงเสร็จแล้วขั้นตอนต่อไปของ การทำงานก็คือ การปรับแต่งเสียงด้วยการใช้ EQ ที่อยู่บน Mixer

 

EQ นั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีส่วนสำคัญและมีผลต่อ การใช้งานมากสำหรับเป็นอุปกรณ์ในการปรับแต่งที่เราใช้งานอยู่  ซึ่งแน่นอนที่สุดว่าเมื่อเราทำการปรับแต่งแล้ว จะได้เสียงที่ดีที่สุด Graphic EQ นั้น ดีและเหมาะสมที่สุด สำหรับการปรับแต่ง ค่าความถี่โดยรวม (EQing)

Quality  คือ สิ่งที่ไม่ได้เกิดจากดวามบังเอิญ แต่เกิดขึ้นได้จากความพยายาม

qualityteam

  • Administrator
  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 4,557
    • อีเมล์
Re: บทความดีๆ จาก CAR AUDIO MAG
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: 07/12/11 06:38:29 »
EQ คืออะไร

เริ่มแรก สำหรับสิ่งที่เราเห็น จริงๆ แล้วผมคิดว่าผู้อ่านคงรู้อยู่แล้วว่า EQนั้น มีไว้ทำอะไร แต่เราจะค่อย ๆเขยิบไป ทีละนิดบอกเล่านั่นนิดนี่หน่อย แล้วค่อยๆ เฉลยว่า เรากำลังบอกอะไรบ้าง จาก บทควาทเริ่มแรก ก็พูดถึงเรื่อง EQ ไปไม่มากก็น้อย แต่ เรายังคิดว่าผู้อ่านก็ยังยากรู้เรื่องราวของEQ ,มากขึ้นไปอีก เพราะเรื่องของEQ นั้นมันต่อเนื่องกันยาวไกลพอสมควร



แสดงให้เห็นถึง parameters ของการตอบสนองความถี่ จากอุปกรณ์ ที่เราป้อนสัญญาณ  ซึ่งเรามักจะคาดหวังว่าเสียงที่ออกจากชุดเครื่องเสียงของเรานั้น มันสามารถที่จะตอบสนองความถี่ออกมาได้ราบเรียบ ( FLAT) แต่มันก็เป็นได้แค่ใกล้เคียงเท่านั้น เนื่องเพราะว่าในขณะที่เราทำการ Mixing นั้น เราจะตั้งรูปแบบ การตอบสนองของ  mixing console พร้อม EQ controls ที่จะเซ็ทอัพไว้อยู่ที่ ตำแหน่งกึ่งกลาง หรือไม่มีการปรับค่าความถี่ใด ๆ หรือเราจะทำการตั้งค่าของ ปุ่ม EQ ไปที่ตำแหน่ง  off  เพื่อที่เราจะทำการตั้งค่า ความ balance ของ frequencies ให้เป็น original มากที่สุด เพราะว่าเสียงที่เจะได้ยินต่อไปนี้จะเป็นเสียงที่เราเรียกว่า เป็นเสียงที่ผิดปรกติ จากเสียงดั้งเดิม(original) ของเสียงเครื่องดนตรี เช่น เสียงแบบ trebly, tinny, harsh, nasal, honky, bassy or boomy ซึ่งเสียงที่กล่าวมานี้มักจะไม่เป็นที่ต้องการทั้งสิ้น  อย่างเช่นโดยธรรมชาติแล้ว เสียง cymbal นั้น ค่อนข้างจะมีเสียงความถี่สูงที่แข็งกระด้าง และมีปลายเสียงที่เล็กแหลม

แสดงถึง  flat response ในช่วงของการ  20Hz and 20kHz, สำหรับ Figure 2 และ Figure 3 แสดงถึง รูปแบบของแถบความถี่ สำหรับการปรับแต่งจาก EQ ของ mixing console เราะแสดงให้เห็นถึง การ แสดงรูปแบบ curve ซึ่งเป็นการผิดเพี้ยนของ EQ ขณะที่ recording และ sound engineers อาจจะประสพ เจอ ประมาณ 0.0001% ในขณะทำการบันทึกเสียง  เพราะอุปกรณ์ที่ใช้บันทึกนั้นมีความเสถียรหรือมีความถูกต้อง มากที่สุดอยู่แล้ว และสำหรับเสียงร้องนั้น

producer หรือ sound-engineer มักจะให้เสียงร้องมี ลักษณะเสียง แบบ presence หรือพูดง่ายๆก็คือ มีปลายเสียงแหลม นิด ๆในการออกเสียง  หรือเราจะเห็นเป็นรูปกราฟ แบบระฆังคว่ำ (bell-shaped) จาก รูปที่ .2

เราทำการ ปรับ EQ ขึ้นมาระดับหนึ่ง (boost)และจะเห็นว่า มีค่า parameters อยู่3 ส่วน ที่เราต้องการ ปรับแต่ง  EQ อันดับแรกก็คือเรา ต้องทำการปรับ ค่า หลักของความถี่ก่อน  (centre) เพื่อแยกแยะความชัดเจน ของ เครื่องดนตรี ก่อน เพื่อให้เครื่องดนตรีนั้นโดเด่นขึ้นมา  ขั้นที่2คือ ทำการปรับค่าระดับสัญญาณ( gain) , โดยมีค่ากาวัดเป็น  decibels (dB) ที่จุด ความถี่กลาง (centre frequency)  mixing consoles นั้นจะทำการ  calibrate เป็นค่า dB, และสามารถปรับค่าขึ้นลงได้ ตั้งแต่  12 ถึง 15dB. ซึ่ง Gain นั้นอาจถูกลดลงได้จากการที่เรา ทำการ ปรับลด EQ (cut) โดยมากจะลดลงประมาณ -6 dB  จาก ค่าความถี่กลาง และเมื่อเราดูที่ เส้น curve จะเห็นว่า มัน ลดค่าลงที่จุด ๆหนึ่ง (dip).

parameter ของ ค่า Q นั้นเราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบ  คือในรูปแบบ  bell-shaped curve ซึ่งจะให้ค่า bandwidth as ที่ต่ำ โดยมีค่า Q= 0.3 ส่วนค่า ที่สูงกว่าก็คือ Q =  5 ซึ่งจะมีผลต่อเสียงโดยรวมทั้งหมด

bell-shaped curve จะเป็นจุดสูงสุด (peaking) ของ EQ ในรูปที่ 3 แสดงแบบ  'shelving' EQ, คือจะทำการเลือกเพิ่มหรือลดเฉพาะบางค่าความถี่  ทีนี้ราก็เห็นคร่าว ๆแล้วว่า EQนั้นสามารถมีผลต่อค่าความถี่ได้แบบใดบ้าง คราวหน้าเราจะมาดูราบละเอียดกันว่า เวลาที่เราปรับไปแล้ว จะได้ผลเป็นอย่างไร อย่างพลาด นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07/12/11 06:43:30 โดย qualityteam »
Quality  คือ สิ่งที่ไม่ได้เกิดจากดวามบังเอิญ แต่เกิดขึ้นได้จากความพยายาม