รบกวนเฮียนพ

[car_racing]

มารบกวนอีกครับเฮียนพ ตอนนี้ราคา alpine ida x305 ราคาเท่าไหร่ครับ แล้ว H100 ด้วยครับ หากสองตัวนี้ใช้งานร่วมกันแนวเสียงจะเป็นอย่างไรครับ และก็รบกวนเฮียช่วยดูกราฟตู้เปิด 1 cuft ให้หน่อยนะครับ

[โจโจ้]

มารบกวนอีกครับเฮียนพ ตอนนี้ราคา alpine ida x305 ราคาเท่าไหร่ครับ แล้ว H100 ด้วยครับ หากสองตัวนี้ใช้งานร่วมกันแนวเสียงจะเป็นอย่างไรครับ และก็รบกวนเฮียช่วยดูกราฟตู้เปิด 1 cuft ให้หน่อยนะครับ

เรียน คุณ car_racing
รบกวนเรียนถาม
ไม่ทราบว่าฟังเพลงแนวไหนครับ

[car_racing]

มารบกวนอีกครับเฮียนพ ตอนนี้ราคา alpine ida x305 ราคาเท่าไหร่ครับ แล้ว H100 ด้วยครับ หากสองตัวนี้ใช้งานร่วมกันแนวเสียงจะเป็นอย่างไรครับ และก็รบกวนเฮียช่วยดูกราฟตู้เปิด 1 cuft ให้หน่อยนะครับ

เรียน คุณ car_racing
รบกวนเรียนถาม
ไม่ทราบว่าฟังเพลงแนวไหนครับ

ส่วนใหญ่จะเป็นแนวลูกทุ่งครับ บางครั้งจะเป็น scorpion และ eagle เป็นบางครั้ง แต่ที่ฟังส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้ฟังจากแผ่น จะเป็น usb เป็นส่วนใหญ่ ครับ

[โจโจ้]

5

มารบกวนอีกครับเฮียนพ ตอนนี้ราคา alpine ida x305 ราคาเท่าไหร่ครับ แล้ว H100 ด้วยครับ หากสองตัวนี้ใช้งานร่วมกันแนวเสียงจะเป็นอย่างไรครับ และก็รบกวนเฮียช่วยดูกราฟตู้เปิด 1 cuft ให้หน่อยนะครับ

เรียน คุณ car_racing
รบกวนเรียนถาม
ไม่ทราบว่าฟังเพลงแนวไหนครับ

ส่วนใหญ่จะเป็นแนวลูกทุ่งครับ บางครั้งจะเป็น scorpion และ eagle เป็นบางครั้ง แต่ที่ฟังส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้ฟังจากแผ่น จะเป็น usb เป็นส่วนใหญ่ ครับ

เรียน คุณ car_racing

สำหรับแนวลูกทุ่งนั้น
แนะนำให้ลอง หา x305 ฟังดูก่อน ครับ

สามารถ ศึกษา แนวทางการใช้งาน ได้จากที่นี่นะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=ebH-19BF2to&feature=related

แต่จากความคิดส่วนตัวผม ผมขอตอบกลางๆ อย่างนี้ครับ

Alpine-x305 ปลายเสียงที่ได้จะปลอดโปร่ง เข้าเต็ม ออกเต็ม มีความพริ้วไหว
ให้รายละเอียด เครื่องให้จังหวะ เสียงแนว แกรกๆ เนียนและละเอียดดีจริงๆ
บุคลิคด้าน mid ก็ไม่แพ้กัน เต็ม จับเสียงโซโลกีตาร์ลูกทุ่งหวานๆ ถึงใจ

น่าเอาไปเปิดเพลงแนวมนต์รักลูกทุ่ง

หากฟังเพลงร้องโดยสุภาพสตรี น้ำเสียงที่ได้ก็ออกไปทางอ้อนผู้ฟังนิดๆ

แนวคึกคัก เพลงเร็วๆ ก็พอไปวัดไปวาได้
ก็จะได้แนวเสียงที่ละเอียด
คิดว่าอยู่ที่ระบบลำโพง+ซับวูฟเฟอร์ ที่เลือกจับคู่มากกว่า

หากเป็น Eagle แนะนำอย่างยิ่งเลยครับ x305 จัดไปเลย
ผมขอเชียร์คนนึง ที่บอกอย่างนี้ เพราะช่วงนี้ กำลังฟังอัลบั้ม Hell Freezes Over ของ The Eagles อยู่
รับรองว่า น้ำเสียงที่ได้ เอาอยู่ ถูกใจวัยรุ่นอย่างเราแน่นอน ครับ

สิ่งที่อยากแนะนำ คุณ car_racing คือ ควรเน้นไปที่การเลือกคุณภาพของ bit rate
อย่าให้ต่ำไปกว่า mp3 ที่ 320kbps นะครับ

ส่วนของ PXA-H100 ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Imprint จากทาง Alpine เองนั้น
ผมกำลังจะติด ยังอธิบายไม่ได้ รู้แต่ว่าติดแล้วดี อิอิ 
แต่ที่แน่ๆ ผมชอบตรงที่
เมื่อติดตั้งกับ IDA-x305 แล้ว สามารถเล่นกับระบบ high power เดิมๆ ได้
เพราะทาง Alpine เอง เค้าออกแบบมาเผื่อระบบ high power ได้
และสามารถปรับตั้งค่า Time Alignment, Parametric EQ, และอื่นๆ
แบบ manual ได้ทางหน้าจอได้เลย สะดวกมาก

ขอให้มีความสุขกับการฟังเพลงนะครับ

[car_racing]

5

มารบกวนอีกครับเฮียนพ ตอนนี้ราคา alpine ida x305 ราคาเท่าไหร่ครับ แล้ว H100 ด้วยครับ หากสองตัวนี้ใช้งานร่วมกันแนวเสียงจะเป็นอย่างไรครับ และก็รบกวนเฮียช่วยดูกราฟตู้เปิด 1 cuft ให้หน่อยนะครับ

เรียน คุณ car_racing
รบกวนเรียนถาม
ไม่ทราบว่าฟังเพลงแนวไหนครับ

ส่วนใหญ่จะเป็นแนวลูกทุ่งครับ บางครั้งจะเป็น scorpion และ eagle เป็นบางครั้ง แต่ที่ฟังส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้ฟังจากแผ่น จะเป็น usb เป็นส่วนใหญ่ ครับ

เรียน คุณ car_racing

สำหรับแนวลูกทุ่งนั้น
แนะนำให้ลอง หา x305 ฟังดูก่อน ครับ

แต่จากความคิดส่วนตัวผม ผมขอตอบกลางๆ อย่างนี้ครับ

Alpine-x305 ปลายเสียงที่ได้จะปลอดโปร่ง เข้าเต็ม ออกเต็ม มีความพริ้วไหว
ให้รายละเอียด เครื่องให้จังหวะ เสียงแนว แกรกๆ เนียนและละเอียดดีจริงๆ
บุคลิคด้าน mid ก็ไม่แพ้กัน เต็ม จับเสียงโซโลกีตาร์ลูกทุ่งหวานๆ ถึงใจ

น่าเอาไปเปิดเพลงแนวมนต์รักลูกทุ่ง

หากฟังเพลงร้องโดยสุภาพสตรี น้ำเสียงที่ได้ก็ออกไปทางอ้อนผู้ฟังนิดๆ

แนวคึกคัก เพลงเร็วๆ ก็พอไปวัดไปวาได้
ก็จะได้แนวเสียงที่ละเอียด
คิดว่าอยู่ที่ระบบลำโพง+ซับวูฟเฟอร์ ที่เลือกจับคู่มากกว่า

หากเป็น Eagle แนะนำอย่างยิ่งเลยครับ x305 จัดไปเลย
ผมขอเชียร์คนนึง ที่บอกอย่างนี้ เพราะช่วงนี้ กำลังฟังอัลบั้ม Hell Freezes Over ของ The Eagles อยู่
รับรองว่า น้ำเสียงที่ได้ เอาอยู่ ถูกใจวัยรุ่นอย่างเราแน่นอน ครับ

สิ่งที่อยากแนะนำ คุณ car_racing
คือ ควรเน้นไปที่การเลือกคุณภาพของ bit rate
อย่าให้ต่ำไปกว่า mp3 ที่ 320kbps นะครับ

ขอให้มีความสุขกับการฟังเพลงนะครับ

mp3 ที่ 320kbps  มันคืออะไรครับ แต่ผมเห้นพี่โพสว่ามีโปรแกรมแปลงไฟล์ที่ดีกว่า mp3 ใช่ไหมครับ อยากได้ครับ แล้วx305 พี่ติดมาราคาเท่าไหร่ครับ

[โจโจ้]

เรียน คุณ car_racing

สิ่งที่ผมอยากแนะนำ คือเรื่องของคุณภาพการติดตั้ง และ คุณภาพของไฟล์ที่เล่น

ด้านคุณภาพการติดตั้ง ผมขอไม่พูดถึง เพราะ มาติดตั้งที่ QC คำตอบมันจบในตัวอยู่แล้ว

แต่เรื่องคุณภาพเสียงของ mp3 ที่ผมได้แนะนำว่า อย่าให้ bit rate ต่ำไปกว่า 320kbps เพราะ
ถ้าต่ำกว่านี้ เช่น 192 หรือ 128 kbps ที่จะหาได้ตามแผ่น ประเทือง หรือ vampires ทั่วๆ ไป
จะได้เนื้อเสียง บี้ๆ แบนๆ มิติหายไป ค่อนข้างมาก

ซึ่งรายละเอียดนี้ จะเห็นชัดเมื่อ เล่นด้วย x305 หรือใน head unit รุ่นสูงๆ อื่นๆ ครับ
ไม่ได้กระแดะนะครับ คือโดยส่วนตัวผมเอง ฟังแล้วจะคันหู
เพราะผมเป็นนักดนตรี เคยเล่น เคยฟังเสียงดนตรีจริงๆ มา
เคยซาบซึ้ง กับการสัมผัสเส้นสายกระทบเฟรต
พอฟังที่ความละเอียดประเภทนี้ สิ่งที่ทำได้ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ฟังได้ผ่านๆ เอาความสุนทรีย์ไม่ได้

เหมือนคนโดนคำสาป อิอิ

เอาล่ะ คราวนี้ มาพูดเรื่องไฟล์เสียงกัน
ชนิดของไฟล์เสียง นั้น ถ้าแยกใหญ่ๆ จะสามารถแยกได้ดังนี้ คือ

1. Lossy คือ ข้อมูลไฟล์มีการบีบอัด ทำให้คุณภาพเสียงเกิดการสูญเสีย จากต้นฉบับ เช่น .mp3

ยกตัวอย่างการบีบอัด ให้เห็นภาพง่ายๆ ดังนี้ครับ
หาก ต้นฉบับจาก cd อ่านได้ มีข้อมูล "1.888888"
MP3 จะบีบอัดเป็น "1.89"

รายละเอียดหายไปเท่าไหร่ครับ ลองนึกดูเล่นๆ นะ

2. Lossless (ไม่มีการสูญเสีย) คือ ข้อมูลไฟล์เสียง ค่อนข้างใกล้เคียงกับต้นฉบับ เช่น .m4a หรือไม่สูญเสียเลย เช่น .wav, .flac, .aiff, .ape, .m4a (apple loseless)

ถามว่า ไฟล์นามสกุลไหน ให้รายละเอียดเสียงได้ใกล้เคียงต้นฉบับมากที่สุด

โดย IPod จะสามารถเล่นไฟล์ประเภทนี้ได้ แต่ต้อง rip จากแผ่นนะครับ เพราะความละเอียดจากแผ่น
โดยมาตรฐานแล้วจะอยู่ที่ 1440kbps สูงกว่า mp3 (ต่อให้เป็นการที่ความละเอียด 320 kbps ด้วย) ถึง 4 เท่า

ยกตัวอย่างการแปลงลักษณะนี้ ให้เห็นภาพง่ายๆ ดังนี้ครับ
หาก ต้นฉบับจาก cd อ่านได้ มีข้อมูล "1.888888"
เมื่อแปลงเป็น .wav หรือ .aiff จะมีข้อมูล เป็น "1.888888" (ไม่สูญเสีย)

แต่ถ้าหากเป็น .flac จะใช้วิธีบีบอัดต่างออกไปเป็น "1.8(6)" หมายถึง จะมีข้อมูลหมายเลข 8 อยู่ 6 ตัว
ซึ่ง การบีบอัดแบบ flac นี้ มีข้อดีคือ เมื่อแปลงกลับไฟเป็น .wav หรือ .aiff ก็จะได้คุณภาพเสียงกลับมาเหมือนต้นฉบับดังเดิม


จากจุดนี้ครับคือคำตอบว่า ทำไมเค้าเล่น IPOD กับ x305 กัน
เพราะ สามารถให้ความละเอียดเสียงได้ไม่แพ้ต้นฉบับ

หากคุณ car_racing จะทดสอบ ลอง rip แผ่น cd แผ่นแท้ ลอง rip เป็น .wav หรือ .aiff ดูนะครับ
ฟังดู จับน้ำเสียง แล้วจะเห็นว่า น้ำเสียงที่ได้ จะใกล้เคียงกับ cd มากกว่า แปลงไฟล์เป็น .mp3 ครับ

จากโปรแกรม easy CD-DA extractor ที่ได้เคยโพสต์เอาไว้นั้น
เป็นโปรแกรมที่สามารถ rip CD ให้เป็น file lossless ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นได้ครับ

ถ้าต้องการเสียงดีๆ หรือเก็บไฟล์ระดับที่เทียบเท่าต้นฉบับ แบบว่าถ้าแผ่นต้นฉบับพังแล้วเอาไฟล์นี้ไปไรท์ใหม่
จะได้คุณภาพเท่าเดิมเลย ให้ใช้ไฟล์แบบ lossless ครับ แต่ถ้าพื้นที่น้อย
แล้วลองฟังดูแล้ว แยกความแตกต่างระหว่างเสียงจาก Lossless และ Lossy ไม่ได้ ก็บีบเป็นพวก Lossy ก็ได้ครับ

แต่ถ้าเล่นด้วย USB FLASHDRIVE กับ x305
จะสามารถ เล่นได้เพียง mp3, 320kbps เท่านั้นครับ
เคยทดสอบใส่ไฟล์ .wav หรือ .aiff ลงไป ปรากฏว่า x305 หาไม่พบ

ส่วนของเรื่องราคา รบกวนสอบถาม เฮียได้โดยตรงเลยนะครับ

มีข้อสงสัย สามารถถามมาได้เรื่อยๆ ครับ ยินดีตอบคำถามครับ (ที่ผมทราบนะ)  

[minny]

คุณโจโจ้เนี่ย รู้ลึกถึงหลักการเลยนะครับ นับถือครับ

[qualityteam]

มารบกวนอีกครับเฮียนพ ตอนนี้ราคา alpine ida x305 ราคาเท่าไหร่ครับ แล้ว H100 ด้วยครับ หากสองตัวนี้ใช้งานร่วมกันแนวเสียงจะเป็นอย่างไรครับ และก็รบกวนเฮียช่วยดูกราฟตู้เปิด 1 cuft ให้หน่อยนะครับ

พึ่งกลับมาครับ  ในโจทย์ของคุณแนะนำเป็นตู้ปิดเลยนะครับ 

[minny]

เรียน คุณ car_racing

สิ่งที่ผมอยากแนะนำ คือเรื่องของคุณภาพการติดตั้ง และ คุณภาพของไฟล์ที่เล่น

ด้านคุณภาพการติดตั้ง ผมขอไม่พูดถึง เพราะ มาติดตั้งที่ QC คำตอบมันจบในตัวอยู่แล้ว

แต่เรื่องคุณภาพเสียงของ mp3 ที่ผมได้แนะนำว่า อย่าให้ bit rate ต่ำไปกว่า 320kbps เพราะ
ถ้าต่ำกว่านี้ เช่น 192 หรือ 128 kbps ที่จะหาได้ตามแผ่น ประเทือง หรือ vampires ทั่วๆ ไป
จะได้เนื้อเสียง บี้ๆ แบนๆ มิติหายไป ค่อนข้างมาก

ซึ่งรายละเอียดนี้ จะเห็นชัดเมื่อ เล่นด้วย x305 หรือใน head unit รุ่นสูงๆ อื่นๆ ครับ
ไม่ได้กระแดะนะครับ คือโดยส่วนตัวผมเอง ฟังแล้วจะคันหู
เพราะผมเป็นนักดนตรี เคยเล่น เคยฟังเสียงดนตรีจริงๆ มา
เคยซาบซึ้ง กับการสัมผัสเส้นสายกระทบเฟรต
พอฟังที่ความละเอียดประเภทนี้ สิ่งที่ทำได้ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ฟังได้ผ่านๆ เอาความสุนทรีย์ไม่ได้

เหมือนคนโดนคำสาป อิอิ

เอาล่ะ คราวนี้ มาพูดเรื่องไฟล์เสียงกัน
ชนิดของไฟล์เสียง นั้น ถ้าแยกใหญ่ๆ จะสามารถแยกได้ดังนี้ คือ

1. Lossy คือ ข้อมูลไฟล์มีการบีบอัด ทำให้คุณภาพเสียงเกิดการสูญเสีย จากต้นฉบับ เช่น .mp3

ยกตัวอย่างการบีบอัด ให้เห็นภาพง่ายๆ ดังนี้ครับ
หาก ต้นฉบับจาก cd อ่านได้ มีข้อมูล "1.888888"
MP3 จะบีบอัดเป็น "1.89"

รายละเอียดหายไปเท่าไหร่ครับ ลองนึกดูเล่นๆ นะ

2. Lossless (ไม่มีการสูญเสีย) คือ ข้อมูลไฟล์เสียง ค่อนข้างใกล้เคียงกับต้นฉบับ เช่น .m4a หรือไม่สูญเสียเลย เช่น .wav, .flac, .aiff
โดย IPod จะสามารถเล่นไฟล์ประเภทนี้ได้ แต่ต้อง rip จากแผ่นนะครับ เพราะความละเอียดจากแผ่น
โดยมาตรฐานแล้วจะอยู่ที่ 1440kbps สูงกว่า mp3 (320 kbps) กว่า 4 เท่า

ยกตัวอย่างการแปลงลักษณะนี้ ให้เห็นภาพง่ายๆ ดังนี้ครับ
หาก ต้นฉบับจาก cd อ่านได้ มีข้อมูล "1.888888"
เมื่อแปลงเป็น .wav หรือ .aiff จะมีข้อมูล เป็น "1.888888" (ไม่สูญเสีย)
แต่ถ้าหากเป็น .flac จะใช้วิธีบีบอัดต่างออกไปเป็น "1.8(6)" หมายถึง จะมีข้อมูลหมายเลข 8 อยู่ 6 ตัว
ซึ่ง การบีบอัดแบบ flac นี้ มีข้อดีคือ เมื่อแปลงกลับไฟเป็น .wav หรือ .aiff ก็จะได้คุณภาพเสียงกลับมาเหมือนต้นฉบับดังเดิม


จากจุดนี้ครับคือคำตอบว่า ทำไมเค้าเล่น IPOD กับ x305 กัน
เพราะ สามารถให้ความละเอียดเสียงได้ไม่แพ้ต้นฉบับ

หากคุณ car_racing จะทดสอบ ลอง rip แผ่น cd แผ่นแท้ ลอง rip เป็น .wav หรือ .aiff ดูนะครับ
ฟังดู จับน้ำเสียง แล้วจะเห็นว่า น้ำเสียงที่ได้ จะใกล้เคียงกับ cd มากกว่า แปลงไฟล์เป็น .mp3 ครับ

จากโปรแกรม easy CD-DA extractor ที่ได้เคยโพสต์เอาไว้นั้น
เป็นโปรแกรมที่สามารถ rip CD ให้เป็น file lossless ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นได้ครับ

ถ้าต้องการเสียงดีๆ หรือเก็บไฟล์ระดับที่เทียบเท่าต้นฉบับ แบบว่าถ้าแผ่นต้นฉบับพังแล้วเอาไฟล์นี้ไปไรท์ใหม่
จะได้คุณภาพเท่าเดิมเลย ให้ใช้ไฟล์แบบ lossless ครับ แต่ถ้าพื้นที่น้อย
แล้วลองฟังดูแล้ว แยกความแตกต่างระหว่างเสียงจาก Lossless และ Lossy ไม่ได้ ก็บีบเป็นพวก Lossy ก็ได้ครับ

แต่ถ้าเล่นด้วย USB FLASHDRIVE กับ x305
จะสามารถ เล่นได้เพียง mp3, 320kbps เท่านั้นครับ
เคยทดสอบใส่ไฟล์ .wav หรือ .aiff ลงไป ปรากฏว่า x305 หาไม่พบ

ส่วนของเรื่องราคา รบกวนสอบถาม เฮียได้โดยตรงเลยนะครับ

มีข้อสงสัย สามารถถามมาได้เรื่อยๆ ครับ ยินดีตอบคำถามครับ (ที่ผมทราบนะ)  

สอบถามหน่อยครับ ถ้าเป็น file ประเถท Apple Lossless จะมีรูปแบบการบีบอัดที่เหมือนกับ flac ที่คุณโจโจ้บอกไว้ว่า "แต่ถ้าหากเป็น .flac จะใช้วิธีบีบอัดต่างออกไปเป็น "1.8(6)" หมายถึง จะมีข้อมูลหมายเลข 8 อยู่ 6 ตัว" รึเปล่าครับ เพราะผมสังเกตจากขนาด file และ bit rate ค่อนข้างจะเทียบเท่ากัน แล้วก็สองแบบนี้อันไหนดีกว่ากันครับ ขอบคุณครับ

[โจโจ้]

เรียน คุณ minicole828

เป็นคำถามที่ดีมากๆ ครับ อย่างที่กล่าวตามกระทู้ข้างต้น มีบางจุด ที่ผมยังไม่รู้
โดยคำถามที่คุณ minicole828 ถามมานั้น มาจี้จุด เอาตรงที่ผมไม่รู้พอดี อิอิ

แต่อยากจะให้ข้อสังเกตอย่างนี้นะครับ

ตามที่ผมได้ศึกษามา จากหลายๆ สำนัก เค้าจะแบ่งระดับชั้นของไฟล์ เป็นลำดับชั้น
ซึ่งมักจะเปรียบมวยกันระหว่าง 2 ค่าย (ยกเว้น ข้อ 2) ดังนี้ครับ


LOSSLESS แปลว่า ไม่สูญเสียนะครับ บางท่านถ้าแปลตรงตัว อาจจะเข้าใจว่า สูญเสียน้อย
ฝั่งซ้ายเป็นของค่าย WINDOWS ฝั่งขวาเป็นค่าย MAC

1. .WAV = .AIFF     ------>   ทั้ง 2 แบบ จะมี bit rate = 1440 kbps (เทียบเท่า CD)

2. .FLAC (FREE LOSSLESS AUDIO CODEC) เป็นไฟล์ที่ไม่ติดลิขสิทธิ์ สามารถใช้ได้ทั่วไป
จึงเป็นที่นิยมมาก เพราะสามารถลดขนาดจากไฟล์ ข้อ 1 ได้ถึง 50% และอีกตัวคือ
= .APE จากค่าย (MONKEY's AUDIO) ------>  2 ตัวนี้ ค่อนข้างจะใกล้เคียงกัน
ตระกูลนี้จะมี bit rate = ประมาณ 600-1000 หรืออาจสูงกว่านั้น มากน้อย ตามคุณภาพการบีบอัดที่เลือก

3. .WMA lossless = .M4A lossless ------>  มี bit rate พอๆ กันกับ .FLAC
การเกิดขึ้นของไฟล์ประเภทนี้ ยังจัดอยู่ในตระกูล lossless
เกิดจาก ไฟล์ตามข้อ 1 ที่มีความจุสูงมากๆ ไม่สะดวกกับผู้ใช้งานทั่วๆ ไป
ทั้ง 2 ค่ายจึงนำเทคโนโลยีบีบอัด มาเบียดกัน
แต่แปลกเหมือนกันที่ผมลอง convert ด้วยโปรแกรม foobar 2000 ตัวเลข bit rate นั้นจะโชว์อยู่ที่ 1440 kbps ได้


LOSSY มีการบีบอัดแบบเสียข้อมูล
ก็จะเป็นพวก MP3, AAC อะไรเทือกนี้ครับ


เท่าที่ทราบ รู้แต่เพียงว่า .FLAC สามารถ convert กลับเป็นไฟล์ มั้ง 2 นามสกุล ตามข้อ 1 ได้โดยไม่เสียคุณภาพไป
ส่วน APPLE LOSSLESS นั้น หากแปลงเป็นไฟล์ตามข้อ 1 แล้วเสียงจะเหมือนต้นฉบับไหม ไม่แน่ใจครับ

ขอค้นคว้าข้อมูลก่อนนะครับ

ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องลองฟังดูนะครับ ว่า ฟังที่ระดับไหนออก
หาจุดลงตัวของคุณที่พอใจกับไฟล์นั้นๆ แล้วก็เลือกไฟล์นั้นๆ ผูกปิ่นโตได้เลย

[minny]

เรียน คุณ minicole828

เป็นคำถามที่ดีมากๆ ครับ อย่างที่กล่าวตามกระทู้ข้างต้น มีบางจุด ที่ผมยังไม่รู้
โดยคำถามที่คุณ minicole828 ถามมานั้น มาจี้จุด เอาตรงที่ผมไม่รู้พอดี อิอิ

แต่อยากจะให้ข้อสังเกตอย่างนี้นะครับ

ตามที่ผมได้ศึกษามา จากหลายๆ สำนัก เค้าจะแบ่งระดับชั้นของไฟล์ เป็นลำดับชั้น
ซึ่งมักจะเปรียบมวยกันระหว่าง 2 ค่าย ดังนี้ครับ


LOSSLESS ฝั่งซ้ายเป็นของค่าย WINDOWS ฝั่งขวาเป็นค่าย MAC

1. .WAV = .AIFF     ------>   ทั้ง 2 แบบ จะมี bit rate = 1440 kbps (เทียบเท่า CD)

2. .FLAC = .APE ------>  2 ตัวนี้ ค่อนข้างจะใกล้เคียงกัน แต่ไม่ทราบว่ามีการแบ่งสำนักหรือไม่
ตระกูลนี้จะมี bit rate = ประมาณ 600-1000 หรืออาจสูงกว่านั้น มากน้อย ตามคุณภาพการบีบอัดที่เลือก

3. .WMA lossless = .M4A lossless ------>  มี bit rate พอๆ กันกับ .FLAC
แต่แปลกเหมือนกันที่ผมลอง convert ด้วยโปรแกรม foobar 2000 ตัวเลข bit rate นั้นจะโชว์อยู่ที่ 1440 kbps ได้

LOSSY มีการบีบอัดแบบเสียข้อมูล
ก็จะเป็นพวก MP3, AAC อะไรเทือกนี้ครับ


เท่าที่ทราบ รู้แต่เพียงว่า .FLAC สามารถ convert กลับเป็นไฟล์ มั้ง 2 นามสกุล ตามข้อ 1 ได้โดยไม่เสียคุณภาพไป
ส่วน APPLE LOSSLESS นั้น หากแปลงเป็นไฟล์ตามข้อ 1 แล้วเสียงจะเหมือนต้นฉบับไหม ไม่แน่ใจครับ

ขอค้นคว้าข้อมูลก่อนนะครับ

ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องลองฟังดูนะครับ ว่า ฟังที่ระดับไหนออก
หาจุดลงตัวของคุณที่พอใจกับไฟล์นั้นๆ แล้วก็เลือกไฟล์นั้นๆ ผูกปิ่นโตได้เลย

ขอบคุณ คุณโจโจ้ มากครับ สำหรับคำตอบที่รวดเร็วครับ เดี๋ยวผมจะลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูครับ ถ้าได้แหล่งข้อมูลอ้างอิงจะเอามานำเสนอให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้ดูกันครับ

[car_racing]

อีกนิดนะครับ ตอนนี้ผมใช้ pioneer 4150 dvd แต่เปิดกับ usb มากกว่าแผ่น หากผมเอา x305 มาเล่น usb เหมือนกันเสียงจะต่างกันแบบรู้สึกได้หรือไม่ครับ

[minny]

เรียน คุณ minicole828

เป็นคำถามที่ดีมากๆ ครับ อย่างที่กล่าวตามกระทู้ข้างต้น มีบางจุด ที่ผมยังไม่รู้
โดยคำถามที่คุณ minicole828 ถามมานั้น มาจี้จุด เอาตรงที่ผมไม่รู้พอดี อิอิ

แต่อยากจะให้ข้อสังเกตอย่างนี้นะครับ

ตามที่ผมได้ศึกษามา จากหลายๆ สำนัก เค้าจะแบ่งระดับชั้นของไฟล์ เป็นลำดับชั้น
ซึ่งมักจะเปรียบมวยกันระหว่าง 2 ค่าย ดังนี้ครับ


LOSSLESS ฝั่งซ้ายเป็นของค่าย WINDOWS ฝั่งขวาเป็นค่าย MAC

1. .WAV = .AIFF     ------>   ทั้ง 2 แบบ จะมี bit rate = 1440 kbps (เทียบเท่า CD)

2. .FLAC = .APE ------>  2 ตัวนี้ ค่อนข้างจะใกล้เคียงกัน แต่ไม่ทราบว่ามีการแบ่งสำนักหรือไม่
ตระกูลนี้จะมี bit rate = ประมาณ 600-1000 หรืออาจสูงกว่านั้น มากน้อย ตามคุณภาพการบีบอัดที่เลือก

3. .WMA lossless = .M4A lossless ------>  มี bit rate พอๆ กันกับ .FLAC
แต่แปลกเหมือนกันที่ผมลอง convert ด้วยโปรแกรม foobar 2000 ตัวเลข bit rate นั้นจะโชว์อยู่ที่ 1440 kbps ได้

LOSSY มีการบีบอัดแบบเสียข้อมูล
ก็จะเป็นพวก MP3, AAC อะไรเทือกนี้ครับ


เท่าที่ทราบ รู้แต่เพียงว่า .FLAC สามารถ convert กลับเป็นไฟล์ มั้ง 2 นามสกุล ตามข้อ 1 ได้โดยไม่เสียคุณภาพไป
ส่วน APPLE LOSSLESS นั้น หากแปลงเป็นไฟล์ตามข้อ 1 แล้วเสียงจะเหมือนต้นฉบับไหม ไม่แน่ใจครับ

ขอค้นคว้าข้อมูลก่อนนะครับ

ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องลองฟังดูนะครับ ว่า ฟังที่ระดับไหนออก
หาจุดลงตัวของคุณที่พอใจกับไฟล์นั้นๆ แล้วก็เลือกไฟล์นั้นๆ ผูกปิ่นโตได้เลย

ขอบคุณ คุณโจโจ้ มากครับ สำหรับคำตอบที่รวดเร็วครับ เดี๋ยวผมจะลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูครับ ถ้าได้แหล่งข้อมูลอ้างอิงจะเอามานำเสนอให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้ดูกันครับ

หลังจากว่างๆ จากงานก็ลองหาข้อมูลดูผ่านๆ แล้ว พอสรุปได้ว่าการบีบอัดที่เป็น Lossless ทุกประเภท คุณภาพเสีงจะไม่หายครับ สามารถ convert กลับมาให้ได้คุณภาพเหมือนต้นฉบับ 100% ครับ  ดังนั้น ทั้ง FLAC และ Apple Lossless คงไม่ต่างกันมากเครื่องคุณภาพเสียง แต่คงจะมองถึงความนิยม ความสะดวกสบายในการใช้งานกับอุปกรณ์นั้นๆ ว่ารองรับรึเปล่า เช่น ถ้า iPod ก็คงหนีไม่พ้น Apple Lossless แน่นอน เพราะ ไม่ support FLAC ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ คุณภาพของแผ่น เครื่องอ่าน หรืออื่นๆ มากมายครับ ในเชิง physical เจอ wiki ที่เปรียบเทียบ lossless อยู่หลายตัวมาฝากครับ ลองอ่านกันดูนะครับ http://wiki.hydrogenaudio.org/index.php?title=Lossless_comparison#Introduction

[โจโจ้]

อีกนิดนะครับ ตอนนี้ผมใช้ pioneer 4150 dvd แต่เปิดกับ usb มากกว่าแผ่น หากผมเอา x305 มาเล่น usb เหมือนกันเสียงจะต่างกันแบบรู้สึกได้หรือไม่ครับ

โอ้ว pioneer 4150 dvd ก็ไม่ธรรมดานะครับ ทำไมคิดจะเปลี่ยนล่ะ
ดูหนังก็ได้

[car_racing]

ไม่ได้เปลี่ยนครับ ผมคิดเอาเองว่าเห็น x 305 ที่ทำมาเพื่อ ipod กับ usb เสียงที่ได้จากการเล่น usb ของ x 305 น่าจะดีกว่าpioneer 4150 dvd ไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกหรือผิด หรืออย่างไรครับ เลยเข้ามาหาข้อมูลก่อน จะได้ไม่พลาดในการติดเพิ่ม ขอบคุณครับ
 
อยากรบกวนเฮีย อยากเห็นกราฟเสียงที่เฮียเคยทำให้ อยากเห็นเป็นแบบเปิด 1 cuft พอร์ด 3"L11"
หรือบอกแนวเสียงก็ได้ครับ ว่าห่างจาก 1.25 cuft  พอร์ด 3"L7 เป็นแบบไหนครับ แล้วถ้าเป็นตู้ปิดที่เฮียทำกราฟมาให้เปิดดังเสียงมันจะแป๊กไหมครับ รบกวนด้วยนะครับเฮียนพ