ผู้เขียน หัวข้อ: เพิ่งสมัครสมาชิกใหม่ รถใหม่ Jazz ครับ  (อ่าน 89862 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

O.V.

  • perfect sound has never been so easy
  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 1,081
แอบอิจฉา เลือกยางใส่รถกันได้สบายเลย  :(
ก็เล่นเเมกหย่ายเองนิ  15 16 17 เปลี่ยนทีเทริน์เเล้วม่ะถึงหมื่น เเต่ต้องยอมสวยน้อยหน่อย :-\

กำลัง จะ มีโครงการ ลดขนาดอยู่ ตอนนี้ เสียงยาง ดัง มากๆ จะไปใช่รุ่น เงียบๆก็จ่ายไม่ไหว
เเดมป์เพิ่ม+พ่นซุ้มล้อเล้ย  หรือจากอัพรถเปน f30  :-\

น้าหนึ่ง

  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 497
 L: ผมใช้ตาม สเปกรถครับ


Yesterday

Hybrid Ovation ll (new) : Exceptional sound with easy installation

Today

Elate Limited Edition : Delivering the definitive sound experience

O.V.

  • perfect sound has never been so easy
  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 1,081
แอบอิจฉา เลือกยางใส่รถกันได้สบายเลย  :(
ก็เล่นเเมกหย่ายเองนิ  15 16 17 เปลี่ยนทีเทริน์เเล้วม่ะถึงหมื่น เเต่ต้องยอมสวยน้อยหน่อย :-\

กำลัง จะ มีโครงการ ลดขนาดอยู่ ตอนนี้ เสียงยาง ดัง มากๆ จะไปใช่รุ่น เงียบๆก็จ่ายไม่ไหว

..ลองดู hankook s1evo กับ goodyear f1 asy'2 เห็นเค้าว่าดีมาก ราคาไม่เเรงเเต่หายากนึดนึง  :(
 
  http://goodyear.co.th/tyre_details.asp?tyre_code=asym2

Limited Edition

  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 536
    • อีเมล์
ผมใช้สายพานครับ ทน เสียง นี้เงียบๆ ไม่ได้ขับไปไหน
จุ๊ๆๆ อย่าบอกใครน่ะว่าแอบแฟนมาทำ เดี๋ยวอด อิอิอิ

PRIUS = Alpine520+Celestra475+Celestra2150+Diamond Hex+Id10+Aurix+Ram+Tchernov(Classic+MS+Original TwoSC)...NO TUNE

Dragoneye = Pio4150+Arc xxk4050v.2+GM.ClassA+Tchnernov(Junior TwoSC)+DR...NO TUNE

Nut_vnv

  • ซี4
  • ****
  • กระทู้: 71
สอบถามหน่อยครับ ระบบเครื่องเสียงที่ติดมาเนี่ยครับ เมื่อดับเครื่องยนต์แล้วมันไม่กินไฟใช่ไหมครับ
เห็นบางคนบอกติดเครื่องเสียงกับบางร้านแล้วแอมป์มันมีไฟติดตลอด แบตหมด เลยกังวลหน่อยๆครับ

ขอบคุณครับ

น้าหนึ่ง ^_^

  • ซี3
  • ***
  • กระทู้: 69
    • อีเมล์
สอบถามหน่อยครับ ระบบเครื่องเสียงที่ติดมาเนี่ยครับ เมื่อดับเครื่องยนต์แล้วมันไม่กินไฟใช่ไหมครับ
เห็นบางคนบอกติดเครื่องเสียงกับบางร้านแล้วแอมป์มันมีไฟติดตลอด แบตหมด เลยกังวลหน่อยๆครับ

ขอบคุณครับ


การติดตั้งวิทยุโดยมาตรฐาน จะใช้ไฟจากระบบไฟรถ หรือ ต่อไฟตรงจาก แบตฯ นั้นจะมีการต่อเชื่อมกับ สวิทช์กุญแจ (สายไฟสีแดง ACC ON/OFF)

ดังนั้นเมื่อเราดับเครื่อง หรือ Startเครื่อง วิทยุก็จะถูกสั่งงานให้ระบบปิด หรือ เปิดไฟหลักในการทำงาน
และ ตัวเครื่องวิทยุเองจะมีระบบการใช้ไฟเลี้ยงข้อมูลเครื่อง ซึ่งตัวเครื่องเองต่อระบบไฟ +12VDC (ระบบไฟรถเดิม หรือ แบตฯ),-12VDC (ลบจากตัวถัง, แบตฯ) ซึ่งกินกระแสเพียง 300mA ซึ่งน้อยมากจึงไม่น่าทำให้แบตที่มีอยู่ในรถหมดได้ถ้าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

ส่วน ระบบที่มีการเพิ่ม AMP เข้าไป การสั่งการให้ AMP ทำงานนั้นมาจาก วิทยุ ซึ่งต้องเปิดสวิทช์กุญแจON จึงสามารถ ON Power ของวิทยุได้ แล้ววิทยุจะส่งสัญญาณสั่งงานให้AMPทำงานโดยใช้สัญญาณ REM, TURN ON  สั่งงานที่AMPให้ทำงาน

ดั่งนั้น กรณีที่ AMPมีไฟสถานะการทำงานติดตลอด แล้ว ทำให้ไฟรถ(แบตฯ)หมดนั้น ถ้ามีการติดตั้งระบบตามที่กล่าวจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้

สรุป
- วิทยุกินกระแสไฟ ในการเลี้ยงข้อมูลน้อย เมื่อปิดสวิทช์ และ ดับเครื่องยนต์
- ระบบที่มีAMP AMPจะเปิดการทำงานจากวิทยุ ดังนั้นเมื่อ ปิดสวิทช์กุญแจ ระบบจะไม่ถูกสั่งการให้ระบบทำงาน เพราะฉนั้น แบตฯจะไม่หมดในกรณีที่ปิดสวิทช์แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09/06/12 08:51:31 โดย qualityteam »

Jeng

  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 457
สอบถามหน่อยครับ ระบบเครื่องเสียงที่ติดมาเนี่ยครับ เมื่อดับเครื่องยนต์แล้วมันไม่กินไฟใช่ไหมครับ
เห็นบางคนบอกติดเครื่องเสียงกับบางร้านแล้วแอมป์มันมีไฟติดตลอด แบตหมด เลยกังวลหน่อยๆครับ

ขอบคุณครับ


การติดตั้งวิทยุโดยมาตรฐาน จะใช้ไฟจากระบบไฟรถ หรือ ต่อไฟตรงจาก แบตฯ นั้นจะมีการต่อเชื่อมกับ สวิทช์กุญแจ (สายไฟสีแดง ACC ON/OFF)

ดังนั้นเมื่อเราดับเครื่อง หรือ Startเครื่อง วิทยุก็จะถูกสั่งงานให้ระบบปิด หรือ เปิดไฟหลักในการทำงาน
และ ตัวเครื่องวิทยุเองจะมีระบบการใช้ไฟเลี้ยงข้อมูลเครื่อง ซึ่งตัวเครื่องเองต่อระบบไฟ +12VDC (ระบบไฟรถเดิม หรือ แบตฯ),-12VDC (ลบจากตัวถัง, แบตฯ) ซึ่งกินกระแสเพียง 300mA ซึ่งน้อยมากจึงไม่น่าทำให้แบตที่มีอยู่ในรถหมดได้ถ้าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

ส่วน ระบบที่มีการเพิ่ม AMP เข้าไป การสั่งการให้ AMP ทำงานนั้นมาจาก วิทยุ ซึ่งต้องเปิดสวิทช์กุญแจON จึงสามารถ ON Power ของวิทยุได้ แล้ววิทยุจะส่งสัญญาณสั่งงานให้AMPทำงานโดยใช้สัญญาณ REM, TURN ON  สั่งงานที่AMPให้ทำงาน

ดั่งนั้น กรณีที่ AMPมีไฟสถานะการทำงานติดตลอด แล้ว ทำให้ไฟรถ(แบตฯ)หมดนั้น ถ้ามีการติดตั้งระบบตามที่กล่าวจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้

สรุป
- วิทยุกินกระแสไฟ ในการเลี้ยงข้อมูลน้อย เมื่อปิดสวิทช์ และ ดับเครื่องยนต์
- ระบบที่มีAMP AMPจะเปิดการทำงานจากวิทยุ ดังนั้นเมื่อ ปิดสวิทช์กุญแจ ระบบจะไม่ถูกสั่งการให้ระบบทำงาน เพราะฉนั้น แบตฯจะไม่หมดในกรณีที่ปิดสวิทช์แล้ว
L:
Simply the best @ QC

MR.Prakarn Lengprasert

  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 2,103
    • อีเมล์
สอบถามหน่อยครับ ระบบเครื่องเสียงที่ติดมาเนี่ยครับ เมื่อดับเครื่องยนต์แล้วมันไม่กินไฟใช่ไหมครับ
เห็นบางคนบอกติดเครื่องเสียงกับบางร้านแล้วแอมป์มันมีไฟติดตลอด แบตหมด เลยกังวลหน่อยๆครับ

ขอบคุณครับ


การติดตั้งวิทยุโดยมาตรฐาน จะใช้ไฟจากระบบไฟรถ หรือ ต่อไฟตรงจาก แบตฯ นั้นจะมีการต่อเชื่อมกับ สวิทช์กุญแจ (สายไฟสีแดง ACC ON/OFF)

ดังนั้นเมื่อเราดับเครื่อง หรือ Startเครื่อง วิทยุก็จะถูกสั่งงานให้ระบบปิด หรือ เปิดไฟหลักในการทำงาน
และ ตัวเครื่องวิทยุเองจะมีระบบการใช้ไฟเลี้ยงข้อมูลเครื่อง ซึ่งตัวเครื่องเองต่อระบบไฟ +12VDC (ระบบไฟรถเดิม หรือ แบตฯ),-12VDC (ลบจากตัวถัง, แบตฯ) ซึ่งกินกระแสเพียง 300mA ซึ่งน้อยมากจึงไม่น่าทำให้แบตที่มีอยู่ในรถหมดได้ถ้าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

ส่วน ระบบที่มีการเพิ่ม AMP เข้าไป การสั่งการให้ AMP ทำงานนั้นมาจาก วิทยุ ซึ่งต้องเปิดสวิทช์กุญแจON จึงสามารถ ON Power ของวิทยุได้ แล้ววิทยุจะส่งสัญญาณสั่งงานให้AMPทำงานโดยใช้สัญญาณ REM, TURN ON  สั่งงานที่AMPให้ทำงาน

ดั่งนั้น กรณีที่ AMPมีไฟสถานะการทำงานติดตลอด แล้ว ทำให้ไฟรถ(แบตฯ)หมดนั้น ถ้ามีการติดตั้งระบบตามที่กล่าวจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้

สรุป
- วิทยุกินกระแสไฟ ในการเลี้ยงข้อมูลน้อย เมื่อปิดสวิทช์ และ ดับเครื่องยนต์
- ระบบที่มีAMP AMPจะเปิดการทำงานจากวิทยุ ดังนั้นเมื่อ ปิดสวิทช์กุญแจ ระบบจะไม่ถูกสั่งการให้ระบบทำงาน เพราะฉนั้น แบตฯจะไม่หมดในกรณีที่ปิดสวิทช์แล้ว
เห็นด้วยตามน้าหนึ่งครับการต่อวงจรแบบนี้ยังปลอดภัยด้วย  ยกตัวอย่างรถผมเมื่อก่อนเปิดวิทยุได้โดยไม่ต้องเสียบกุญแจรถซึ่งมีข้อเสียมากกว่าข้อดีผมเจอกับตัวเองที่ดับเครื่องยนต์เบาเสียงเพลงจนสุดแต่ลืมปิดวิทยุจากเช้ายันเย็นลืมมา2ครั้งแล้วต้องนำรถมาเสียบเครื่องชาร์ทแบตเตอร์รี่  แต่หลังจากที่ไปเปลี่ยนฟร้อนท์แล้วทางร้านได้ต่อสายใหม่ตามที่น้าหนึ่งบอกครับปัญหานี้จึงหมดไป :-[ :-[ :-[

Nut_vnv

  • ซี4
  • ****
  • กระทู้: 71
คุณเบส คุณหนึ่งครับ พอดีวันนี้ให้ช่าง Solex มาติด lock gear ตอนถอดตรงครอบเกียร์ช่างบอกว่ามันไม่มีน็อตละครับ ถามว่าเอารถไปทำไรมา  :-\  ผมสงสัยว่าช่างตอนทำเครื่องเสียงคงใส่กลับไม่ครบ  รบกวนช่วยดูให้ด้วยครับ  เห็นช่าง Solex เขาว่าเป็นน็อตเบอร์ 8   หรือถ้าไม่เจอพอจะหาแทนให้ได้ไหม  เดี๋ยวกลับไปเอาพร้อมของที่ลืมไว้ครับ น่าจะได้แวะเข้าไปพรุ่งนี้ครับ :D

ขอบคุณมากครับ

Photo by QC caraudio

  • บุคคลทั่วไป
เดี๋ยวผมจะรีบตรวจสอบให้นะครับ
ต้องขอโทษและขออภัยด้วยนะครับ
ยังไงผมจะรีบเช็คให้ครับ

Nut_vnv

  • ซี4
  • ****
  • กระทู้: 71
ลอง stuffit แล้วไม่รู้สึกว่ามันเงียบขึ้นเลยครับ มันช่วยได้จริงไหมเนี่ย  ??? คงช่วยได้นิดหน่อยมั่งเลยไม่รู้สึก
แต่ GR90 เริ่มเนียนล่ะ ยิ่งความเร็วสูงยิ่งเนียน นุ่ม หนืบดี เข้าโค้งคมดี (จริงๆ ก็เทียบความนุ่มกับยางเดิมๆ ยาก เพราะผมเติมลม 34 ยางเดิมเติมมา 32 แต่ชอบ 34 เพราะวิ่งฉิวดี ไม่อืด)

ใครใช้ jazz ไม่ damp นี่ ถ้าขับ 130 เป็นไงครับ อยากทราบ  พอดีผม damp เร็วเกิน ยังไม่ทันได้ลอง jazz บ้านๆ เลยไม่รู้ว่าขับไม่ damp มันจะเป็นไง เสียงดังมากไหม 

แต่ damp นี่คงช่วยได้เยอะ  ผมขับ 130 ไม่ต้องเร่ง volume เลยเพราะไม่รู้สึกว่ามีเสียงอะไรมารบกวน ฟังเพลงสบายๆ ขับแล้วยังไม่รู้สึกว่าเร็วมาก แต่ยังไม่กล้าลองมากกว่านี้ ไว้ทางยาวๆออก ตจว. แล้วจะมารายงาน

ผมว่าตอนนี้เสียงที่ดังที่สุดที่เข้ามาในห้องโดยสารตอนนี้คงเป็นเสียงเครื่องของรถที่อยู่ด้านข้างๆ เช่น มอเตอร์ไซค์ หรือรถบรรทุกเร่งเครื่องล่ะครับ แต่ก็เบาลงมากแล้ว เพียงแต่สังเกตุได้มากสุดในบรรดาเสียงรบกวนต่างๆ

damp เฉยๆ ไม่ต้องทำเครื่องเสียงก็ได้นะ บางทีขับคนเดียวอยากอยู่เงียบๆ ปิดเพลง ก็สงบจิตสงบใจดี (ไว้กันเสียงภรรยาได้นะ) :D

zick_ong

  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 187
    • อีเมล์
ลองปิดเพลงแล้วเทียบดูระหว่างใส่กะไม่ใส่ครับ

เกิน100ผมว่าเสียงจากร่องประตูลดลงนะ

Civic FD
P90rs + pro + ib100
GM M-line 2ways active
Boston G5-10
ARC SE 4100
Celestra FA 2150
Cable : tchernov
Power cable :RAMM + tchernov

น้าหนึ่ง ^_^

  • ซี3
  • ***
  • กระทู้: 69
    • อีเมล์
            ตัวยางเส้นๆ ที่เข้าแนวขอบประตู จากการใช้งานจริงพบว่าช่วยกันเสียงส่วนหนึ่งที่แนวขอบประตูระหว่างประตูบานหน้า และ ประตูบานหลังซึ่งจุดนี้ไม่มีหรือมีก็น้อย ที่รถปกติจะมียางหรือวัสดุกันเสียงครับ


            อีกเรื่อง ครับ การDamp ครับ

เรา DAMP กันไปทำไม = เพิ่มมวลให้กับแผง ผนัง พื้นที่ที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียงรบกวน เพื่อกำจัดเสียงจากความถี่กำธร

                             = เสริมแผงให้แข็งแรงยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้บิดงอเมื่อกระทบกับแรงดันเสียง

                             = ทำหน้าที่เสมือนกำแพงกั้นเสียงระหว่างภายในกับภายนอกรถยนต์ที่ไม่พึงปรารถนา

             ผมเองก็ทำที่ละจุดครับโดยทำที่ประตูคู่หน้าก่อนครับ และ ประตูด้านหลังไม่ทำ ลองนั่งหน้านั่งหลัง ซึ่งได้รับรู้ความแตกต่างครับ

             แต่มีอีกส่วนหนึ่งครับที่ เมื่อ เราทำแล้ว ได้แก่ การDamp การใส่ยางแนวขอบประตู ก็ยังมีเสียงอีก จากการสังเกตุคือ บานกระจกตรงนี้เองที่เป็นจุดอ่อน อีกที่หนึ่งครับ 

Nut_vnv

  • ซี4
  • ****
  • กระทู้: 71
เป็นไปได้ครับ ผมว่าตอนนี้เสียงผ่านมาทางกระจกมากกว่า  ???

ลุงขี้เมา

  • ซี5
  • *****
  • กระทู้: 3,758
ถ้าเอาให้ดีขึ้นกว่านี้ ลองดูฝากระโปรงหน้ารถนะครับ แดมป์เพียงบางส่วนเท่านั้น ไม่ทำให้ฝากระโปรงหนักมาก ได้มาซึ่งเสียงกลาง นิ่งขึ้นอีก

แต่ถ้าจะสุดๆ ก็ต้อง ตรง FireWall ครับ .... อันนี้ ดีขึ้น แบบรู้สึกได้ แต่คงทำยากพอควร ต้องรื้อ คอนโซลหน้าทั้งหมด

ในส่วน FireWall นี้ ถ้าไม่เน้นกันสุดๆ คงเกินความจำเป็นไปนะครับ