ระดับน้าเอ๊ะไม่ต้องฟังแล้วครับ
ขนาดพาไปดูคอนเสิร์ทน้าเอ๊ะยังใช้ตาดูอย่างเดียวก็รู้เลยว่าเลยว่าเสียงดีมาก
ออกมาเล่าบรรยากาศการฟังให้น้าตงว่าดูเป็นอินเตอร์มากทั้งสูง ขาว
แถมกลับมาค้นข้อมูลประวัติความเป็นมาอย่างขมักเขม่น
แต่ถ้าดูละเอียดนี่ต้อง มินนี่ ดูจนคนเล่นไวโอลินไม่กล้าสบตาเลย
โหเฮียเสียภาพคตอันดีงามนะเนี่ย ^^
อยากให้สมาชิกไปฟังกันนะครับ
การฟังเสียงที่ไม่ผ่านการขยายด้วยเครื่องมืออะไรเลย จะทำให้ได้ประสบการณ์มากๆ ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจ speed Transient และ dynamic อย่า
ถ่องแท้มากขึ้น โดยเฉพาะเข้าใจว่า COnductor มีผลอย่างไรต่อเพลงที่เราจะฟัง
ผมยังได้แง่คิดมากมายจากการไปชมครั้งนี้เช่น
1. การเล่นเพลงเหล่านี้ แต่ละคนจะมีบทบาทของตนเอง เช่น กลองTimpany เล่นคนเดียวฟังไม่รู้ว่าเพลงอะไร หรือเล่นทั้งวงแต่เล่นไม่ถูกจังหวะเวลาก็ไม่เป็นเพลง หรือ Violin เล่นเดียวได้แต่ขาดวงไปเหตุการณ์ต่างๆในเพลงก็ไม่สมบูรณ์ ความเป็น Teamwork สำคัญมาก
2. นักดนตรีแต่ละคนมี Note ของตนเองเปรียบเสมือนมีเป้าหมายให้เดินแม้จะเป็นเพียงชิ้นเล็กของเพลงใหญ่ที่เคาะ Triangle แล้วจบไปแต่ก็คือส่วนนึงของเพลงทั้งหมด เป้าหมายต้องชัดเจน ถูกที่และเวลา เพลงจึงจะสมบูรณ์
3.conductor เหมือนหัวหน้าทีต้องดูแลทั้งเพลงให้ออกมาไพเราะตาม Style หรือ ตามวิสัยทัศน์ที่ทำให้เกิดผลลัพที่ต้องการ ดูทุกคนในวงรู้หมดทั้งเพลงแต่ไม่ได้เล่นเอง นี่คือ Role ของ Manager จริง รู้จักว่าใครเล่นเป็นอย่างไรและทำอย่างไรเพลงจึงจะไพเราะ และต้องคอย Diploy strategy เหมือนคอย conduct กลุ่มเครื่องดนตรีนู้นนี้นั้นไปด้วย
4.ในตอนสุดท้ายยังสามารถเลือกคนที่โดดเด่นเพื่อเป็นกำลังใจให้พัฒนาตนเอง และยังให้เกียรติกับทุกคนยืนขึ้นเพื่อต้อนรับความสเร็จจากเสียงปรบมือซึ่งเหมือนรางวัลอันน้อยนิด แต่ยิ่งใหญ่กับผู้รับเสมอ
ผมยังได้เอา VDO จาก Youtube มาแปะ slide อบรมน้องๆในแผนกเดือนหน้าถึงเรื่อง teamwork เลยผมว่าเห็นภาพดีครับ